ตอนนี้หนีหมายจับ! ปปง.ตามยึดทรัพย์ครั้ง 3 ได้อีก 5.5 ล. คดี ‘ศิริพร รัตนปราการ’ลูกจ้างสาว หน.การเงิน สหกรณ์ออมทรัพย์ก.เกษตรฯกับอดีตผจก. ยักยอกเงินลูกค้า 644.8 ล. ล่าสุด เจอโฉนดที่ดิน 5 แปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ก่อนหน้า 2 ครั้ง 56 ล. เบ็ดเสร็จ 3 ครั้ง 61.5 ล. พบทำตั้งแต่ปี 2548 ผู้เสียหาย 115 ราย
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) มีคำสั่ง คณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.56/2567 ลงวันที่ 12 มี.ค.2567 เรื่อง ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) ราย นางศิริพร รัตนปราการ หรือนางสาวพชร จันทนะรัตน์ อดีตหน.ฝ่ายการเงิน สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับพวก ในคดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด 644,833,527.71 บาท โดยยึดทรัพย์สิน 5 รายการเป็นที่ดิน 5 แปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้าง มูลค่า 5,518,480 บาท พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมกรธุรกรรมมีมติ คือ วันที่ 12 มีนาคม 2567 ถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2567
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า คำสั่งยึดทรัพย์ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง 56,007,502.50 บาท ครั้งแรก คำสั่งที่ ย. 160/2565 วันที่ 1 ก.ย.2565 จำนวน 9 รายการ มูลค่า 44,552,502.50 บาท ครั้งที่สองคำสั่งที่ ย.7/2566 ลงวันที่ 11 ม.ค.2566 จำนวน 16 รายการ มูลค่า 11,455,000 บาท
รวม 3 ครั้ง จำนวน 30 รายการ มูลค่า 61,525,982.50 บาท
ทั้งนี้ ความเป็นมาและพฤติการณ์ของ นางศิริพร รัตนปราการ ตามที่ปรากฎในคำสั่งยึดทรัพย์มีรายละเอียดดังนี้
@เปิดที่มา-พฤติการณ์ สมาชิก 2 รายร้อง
ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้รับรายงานจากสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ตามหนังสือ ลับ ที่ สอ.กษ. 1495/2565 ลงวันที่ 4 เมษายน 2565 จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ตามหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กษ 1115/1941 ลงวันที่ 8 เมษายน 2565 และจากสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ตามหนังสือที่ ตช 0015.(บก.น.1)8/800 ลงวันที่ 8 เมษายน 2565 รายงานการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างและความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง รายนางศิริพร รัตนปราการ หรือนางสาวพชร จันทนะรัตน์ กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ กล่าวคือ
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565 สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ได้เริ่มเปิดบริการระบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ http://www.moac coop.com ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้สมาชิกสามารถตรวจสอบรายละเอียดของข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีสหกรณ์ผ่านระบบออนไลน์ได้ ภายหลังจากเปิดระบบไม่นาน ได้มีสมาชิกร้องเรียนมายังสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด กรณีพบว่ายอดเงินคงเหลือในบัญชีออมทรัพย์ไม่ตรงกันกับยอดเงินที่ปรากฏในระบบออนไลน์ โดยเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565 นางอนุรี อธิคุณากร และนายสมพร อธิคุณากร สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ได้มาติดต่อแจ้งว่ารายการเดินบัญชีและยอดเงินคงเหลือที่ปรากฎอยู่ในสมุดบัญชีคู่ฝากและในระบบออนไลน์ไม่ถูกต้อง จากการตรวจสอบบัญชีเลขที่ 2000001522 ของนางอนุรี อธิคุณากร และบัญชีเลขที่ 2000002422 ของนายสมพร อธิคุณากร พบว่ามีการถอนเงินออกจากบัญชีโดยเจ้าของบัญชีไม่ได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อและไม่ได้เป็นผู้ทำคำขอถอนเงินรายการดังกล่าวแต่อย่างใด เมื่อตรวจใบถอนเงินฝากของบัญชีข้างต้น ปรากฏว่าลายมือชื่อในช่องลายมือชื่อเจ้าของบัญชีและช่องผู้รับเงินเป็นลายมือซื่อปลอม
@ทำตั้งแต่ปี2548 ผู้เสียหาย 115 ราย ยอด 644.8 ล.
หลังจากทราบว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้น สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด จึงประชาสัมพันธ์แจ้งสมาชิกทุกคนตรวจสอบบัญชีที่มีความผิดปกติและให้มายื่นคำร้องไว้ที่สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ผลปรากฏว่าพบผู้เสียหายที่มียอดเงินสูญหายไปจากบัญชีรวมทั้งสิ้น จำนวน 115 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายจำนวนประมาณ 644,833,427.71 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด พบความผิดปกติของบัญชีสมาชิกตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2548 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายอื่นและมีมูลค่าความเสียหายเพิ่มอีก กรณีดังกล่าวสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด พบว่านางศิริพร รัตนปราการ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นนางสาวพชร จันทนะรัตน์ ซึ่งเป็นลูกจ้างของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการเงิน และนางพวงทิพย์ สุทธิแย้ม ซึ่งเป็นลูกจ้างของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ตำแหน่งผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ได้ร่วมกันกระทำความผิดโดยเอาเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด หรือที่อยู่ในความครอบครองของสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ไปโดยทุจริต คดีนี้ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 86/2565 ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 ประกอบมาตรา 335 (11)
@ หนีหมายจับ
ปัจจุบันผู้ต้องหาทั้งสองอยู่ระหว่างหลบหนีและพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองแล้ว ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 666/2565 และ 667/2565 ลงวันที่ 5 เมษายน 2565 อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านางศิริพร รัตนปราการ หรือนางสาวพชร จันทนะรัตน์ กับพวก (กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
@ ก่อนหน้าโดนยึดอายัดทรัพย์ 2 ครั้ง
ต่อมาคณะกรรมการธุรกรรมได้มีคำสั่ง ที่ ย. 160/2565 ลงวันที่ 1 กันยายน 2565 เรื่อง ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายนางศิริพร รัตนปราการ หรือนางสาวพชร จันทนะรัตน์ กับพวก (กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด) จำนวน 9 รายการ พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) และคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย. 7/2566 ลงวันที่ 11 มกราคม 2566 เรื่อง ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) รายนางศิริพร รัตนปราการ หรือนางสาวพชร จันทนะรัตน์ กับพวก (กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด) จำนวน 16อ รายการ พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นั้น
จากการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคล รวมทั้งผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงินในคดีดังกล่าว พบข้อมูลเพิ่มเติมว่านางศิริพร รัตนปราการ หรือนางสาวพชร จันทนะรัตน์ กับพวก เป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือมีสิทธิครอบครองในทรัพย์สินเพิ่มอีกจำนวน 5 รายการ คือ ที่ดินตามโฉนดที่ดินพร้อมไม้ยืนต้นและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้ว ปรากฎหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และเนื่องจากทรัพย์สินดังกล่าวเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินตามโฉนดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฎหลักฐานในทางทะเบียน ในการเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครองโดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครอง อาจดำเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครองในทางทะเบียนได้ ทั้งนี้ หากมิได้มีการออกคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสียและหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านางศิริพร รัตนปราการ หรือนางสาวพชร จันทนะรัตน์ กับพวก (กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 (3) และมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุมครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรม ว่าด้วยการรับเรื่อง การตรวจสอบ การพิจารณาดำเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25 คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคำสั่งยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเดิม) จำนวน 5 รายการ พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน(เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมกรธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2567 ถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2567 โดยมีรายการทรัพย์สินที่ยึดปรากฏตามบัญชีทรัพย์สินแนบท้ายคำสั่งนี้
ทั้งนี้ ให้รวมถึงเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการจำหน่าย จ่าย โอนด้วยประการใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวหรือสิทธิเรียกร้องหรือผลประโยชน์หรือดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวด้วย (ดูประกาศท้ายข่าว)
ข่าวเกี่ยวข้อง
ปปง.ยึดทรัพย์ ผจก.สหกรณ์เกษตรฯคดีทุจริตเงิน 600 ล.ผู้เสียหายยื่นคุ้มครองสิทธิใน 30 วัน