ฟินแลนด์เพิกถอนวีซ่าแรงงานไทยเก็บเบอร์รี่เป็นปีที่ 2 ต้นเหตุจากรายงานค้ามนุษย์ มีเหยื่อหลายร้อยคน ขณะกัมพูชา เมียนมาถูกเพิกถอนด้วยเพราะเป็นเขตอำนาจสถานทูตเดียวกัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับแรงงานเก็บเบอร์รี่ชาวไทยในประเทศฟินแลนด์ว่าทางกระทรวงต่างประเทศฟินแลนด์ได้ตัดสินใจที่จะเพิกถอนประเทศไทยจากรายชื่อประเทศที่มีสิทธิ์ได้รับวีซ่าระยะสั้นสำหรับแรงงานเก็บเบอร์รี่ป่าแล้ว ซึ่งการเพิกถอนรายชื่อเป็นปีที่สองติดต่อกัน
การตัดสินใจเพิกถอนวีซ่ายังครอบคลุมไปถึงประเทศกัมพูชาและเมียนมาด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าการยื่นขอวีซ่าสำหรับแรงงานเก็บเบอร์รี่ของทั้งสองประเทศนี้จะดำเนินการภายใต้เขตอำนาจของสถานทูตฟินแลนด์ในกรุงเทพ
การระงับวีซ่ามีผลกับผู้ยื่นขอทุกคนในประเทศที่อยู่ภายใต้เขตอํานาจของสถานทูตฟินแลนด์ในกรุงเทพฯ ได้แก่ ไทย กัมพูชา และเมียนมา ซึ่งหมายความว่าแรงงานเก็บเบอร์รี่จากประเทศเหล่านี้จะไม่ได้รับวีซ่าเชงเก้นสําหรับฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งก็คือฤดูร้อนปี 2567
อนึ่งการเพิกถอนวีซ่าแรงงานเก็บเบอร์รีสำหรับคนไทยถูกระงับภายใต้ข้อสงสัยเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยปีที่แล้ว ฟินแลนด์ยังได้ระงับการออกวีซ่าสําหรับบุคคลสัญชาติไทย ตามแนวทางที่เข้มงวดในการดําเนินการขอวีซ่าสําหรับผู้เก็บเบอร์รี่ เนื่องจากสงสัยว่าเส้นทางดังกล่าวถูกใช้เพื่อการค้ามนุษย์
จากข้อมูลของกระทรวงฯ เป็นที่สงสัยว่าแรงงานเก็บเบอร์รี่จากประเทศไทยซึ่งได้รับวีซ่าเชงเก้นสําหรับเก็บผลเบอร์รี่ในป่าของฟินแลนด์มักเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และคาดว่าจํานวนเหยื่อจะเป็นจำนวนหลายร้อยคน
“กระทรวงการต่างประเทศในฐานะหน่วยงานด้านวีซ่าและหน่วยงานที่กํากับดูแลการออกวีซ่าให้กับสถานทูตมีมุมมองที่จริงจังมากเกี่ยวกับการแสวงหาประโยชน์จากคนเก็บเบอร์รี่ป่าของไทย” กระทรวงฯระบุ
อย่างไรก็ตามคนไทยยังคงมีสิทธิ์ได้รับวีซ่าทำงานตามฤดูกาล หรือก็คือหมายความว่าคนไทยสามารถทำเรื่องยื่นขอวีซ่าแรงงานตามฤดูกาลสำหรับการไปเก็บเบอร์รี่ที่ไม่ใช่จากธรรมชาติ หรือว่าขอทำงานอื่นๆที่อยู่ภายใต้วีซ่าประเภทนี้ได้ โดยคนไทยที่ต้องการจะทำงานนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วันในประเทศฟินแลนด์ภายใต้เงื่อนไขวีซ่าทำงานตามฤดูกาลจะไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตถิ่นที่อยู่ อย่างไรก็ตามผู้ที่ประสงค์จะทำงานนานกว่านี้จะต้องได้รับใบอนุญาตถิ่นที่อยู่เมื่อมาถึงประเทศฟินแลนด์