อธิบดีกรมพัฒฯรับต้องไปพิจารณาแก้ไข หลังมีข้อกังวลระบบสแกนจ่ายทำข้อมูลผู้ขอตรวจสอบบริคณห์ฯ รั่วไหล แต่ยืนยันทุกอย่างเป็นความลับ ระบบสแกนเน้นแค่ดูยอดเงิน ไม่ได้ดูว่าใครจ่ายเงิน แจงตอนนี้ขอถ่ายเอกสารบริคน สามารถสแกนจ่ายได้แล้ว
สืบเนื่องจากที่นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่าทางกรมพัฒฯจะมีการปรับปรุงระบบ ในกรณีที่มีผู้มาร้องเรียนกับสำนักข่าวว่าในกระบวนการตรวจสอบบริคณห์สนธิของบริษัทต่างๆที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้านั้น พบว่าระบบการจ่ายเงินเพื่อจะเข้าดูข้อมูลเอกสารต่างๆนั้นพบว่ากลายเป็นระบบสแกนจ่ายด้วยแอปพลิเคชันโอนเงินหมดแล้ว แต่อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการขอปริ๊นท์เอกสารที่ได้มาจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ยังคงรับเงินสดอยู่ ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการจ่ายเงิน
ล่าสุดสำนักข่าวอิศราได้รับข้อร้องเรียนเพิ่มเติมว่าในกรณีที่ประชาชนจะขอมาตรวจสอบบริษัทต่างๆ การใช้ระบบสแกนจ่ายนั้นอาจทำให้ข้อมูลผู้ตรวจสอบรั่วไหลได้ เพราะการสแกนจะทำให้รู้ตัวตนของผู้มาตรวจสอบ สำนักข่าวอิศราจึงได้ติดต่อไปยังนางอรนมอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสอบถามข้อมูล
นางอรมนกล่าวยอมรับว่ายังไม่ได้คิดลึกซึ้งตรงนี้ขนาดนั้น แต่อย่างไรก็ตามขอย้ำทางเราไม่ได้ไปสืบว่าแหล่งที่มาของเงิน ใครเป็นผู้มาจ่ายเงิน เราสนใจแค่ในส่วนของยอดเงินเท่านั้น แต่เราก็จะเอาเรื่องนี้ไปพิจารณาแก้ไขปรับปรุงเช่นกัน และต้องขอเรียนว่าข้อมูลว่าใครโอนเงิน ใครเป็นผู้จ่ายเงิน ข้อมูลเหล่านี้นั้นเป็นความลับอยู่แล้ว
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวต่อไปว่าสำหรับระบบชำระเงินเพื่อขอดูบริคนสนธิของบริษัทต่างๆ ณ เวลานี้นั้นขอเรียนว่าเราพยายามที่จะลดการใช้เงินสด ส่วนในเรื่องของการปริ๊นเอกสาร เอกสารบางแผ่นนั้นมันแค่ 3 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายไม่เยอะ เราก็เลยอะลุ้มอล่วยให้มีการใช้สองทางเลือกก็คือการใช้ทั้งเงินสดและการใช้ทั้งระบบสแกนจ่าย แต่ขอเรียนว่าการขอถ่ายเอกสารนั้นตอนนี้สามารถใช้ระบบสแกนจ่ายได้แล้ว
“เรามีการติดป้ายเอาไว้ทำให้ชัดเจนแล้วว่าเราต้องการที่จะให้มีการลดการใช้เงินสด คือต้องเข้าใจว่านี่มันเป็นนโยบายรัฐบาลอยู่แล้วในการที่จะทำให้มันเป็นระบบดิจิทัล”นางอรมนกล่าว