ศาลอาญาอนุญาตเลื่อนนัดตรวจหลักฐานคดีกล่าวหา สว.’อุปกิต ปาจารียางกูร ’สมคบค้ายาเสพติด-ฟอกเงินฯ 22 เม.ย.นี้ เหตุยังคัดถ่ายเอกสารคดีทุนมินลัตไม่ได้ เจ้าตัวมั่นใจความบริสุทธิ์ ลั่นหากยกฟ้องเตรียมฟ้องกลับกราวรูด -อัยการเตรียมพยาน 38 ปากขึ้นสืบ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มี.ค.2567 ที่ห้องพิจารณา 806 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีหมายเลขดำที่ ย.1446/2566 ที่ อัยการสูงสุด (อสส.) มีคำสั่งฟ้องนายอุปกิต ปาจารียางกูร สมาชิกวุฒิสภา เป็นจำเลย ในข้อหาเป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน, เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สนับสนุนหรือช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ รวม 6 ฐานความผิด หลังนัดตรวจหลักฐานคู่ความทั้งโจทก์จำเลย เเถลงขอเลื่อนนัดตรวจหลักฐานในวันนี้ออกไปอีก 1 นัด เนื่องจากคู่ความยังไม่ได้รับเอกสารที่รอคัดถ่ายเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับคดี ทุนมินลัต ที่มีข้อเท็จจริงเดียวกันซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ
ศาลฯ พิจารณาเเล้วเห็นว่าเป็นเอกสารสำคัญที่คู่ความทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่ได้ตรวจสอบจึงอนุญาตให้เลื่อนนัดตรวจหลักฐานเป็นวันที่ 22 เเละ 29 เม.ย.2567 นี้
ขณะที่ นายอุปกิต ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นไปห้องพิจารณาคดี ว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ศาลนัด ตรวจพยานหลักฐาน ของฝ่ายโจทก์และจำเลยในคดี ซึ่งเลื่อนมาเร็วขึ้นจากกำหนดเดิม ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเองตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน และเกี่ยวกับคดีทุนมินลัต ศาลได้ยกฟ้องทุกข้อกล่าวหาทั้ง 32 ข้อกล่าวหา ซึ่งศาลฯ พิจารณาแล้วว่าหลักฐานของจำเลยสามารถหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ทั้งหมด
"สรุปง่ายๆว่าศาลได้กรุณาพิจารณาแล้วว่าทั้ง 4 คนรวมทั้งบริษัท ไม่มีข้อกล่าวหาใดๆ เกี่ยวข้องกับ ยาเสพติด การฟอกเงิน และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเลยได้รับความเป็นธรรมเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน ยังมีช่วงหนึ่งของคำวินิจฉัยของศาลที่ระบุว่า พนักงานสืบสวนสอบสวน ทำการสอบสวนผิดทิศทาง จึงทำให้จำเลยถูกดำเนินคดี ซึ่งต้นเรื่องคือ 4-5 คนยังไม่มีความผิดและผมได้ขายธุรกิจออกไปจากบริษัทตั้งแต่ปี 2562 ตั้งแต่ก่อนมาเป็นวุฒิสมาชิก ซึ่งหลังจากนี้ก็ยังคงต้องขึ้นศาลเพื่อต่อสู้คดีต่อไป" นายอุปกิต ระบุ
นายอุปกิต ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของคดีที่ได้มีการยื่นฟ้องพนักงานสอบสวน ไว้ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น แม้ศาลชั้นต้นจะยกฟ้องไปแล้ว แต่ก็จะใช้สิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป เพราะชัดเจนแล้วว่ากลุ่มพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนผิดทิศทางจึงทำให้กลุ่มจำเลยถูกกล่าวหา และถูกควบคุมตัว
"ส่วนคนที่กล่าวหาผมต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมให้ถึงที่สุดเพราะเป็นสิทธิ์ของผม พร้อมกันนี้ อยากจะบอกกับสังคมว่าคดีนี้มีความชัดเจนมาก มีปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการต้นน้ำ กลางน้ำที่ผิดปกติ เชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งอย่างแน่นอนไม่ว่าจะทางการเมืองหรือกระบวนการกลางน้ำที่ตนเองได้เคยตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนหน้านี้ ว่า มีอดีตอัยการสูงสุดผู้หญิงท่านหนึ่ง ที่ได้ร้องขอความเป็นธรรมไปหลายรอบ แต่ก็ไม่มีการพิจารณาในประเด็นที่ว่ามีบริษัทหลายร้อยบริษัทที่โอนเงินผ่าน Money Changer ในลักษณะนี้เป็นลักษณะของการทำธุรกิจในช่วงที่ด่านปิดและในที่สุดท่านก็เซ็นสั่งฟ้องตนเองด้วยข้อหากล่าวหาร้ายแรง ถึง 6 ข้อหา ก็ไม่ทราบว่าใครจะรับผิดชอบต่อชื่อเสียงและการที่ทั้ง 4 คน ต้องไปติดคุกเป็นเวลานาน ถึง 1 ปี 4 เดือน"
ต่อมาภายหลังออกจากห้องพิจารณาคดี นายอุปกิต ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ว่า นัดตรวจหลักฐานในวันนี้จำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากเอกสารที่ยังไม่ได้คัดถ่ายในวันนี้มีเป็นจำนวนมากหลายสิบลัง ซึ่งจะต้องใช้เวลาอ่านเอกสารอย่างรอบคอบจึงเลื่อนไปเป็นวันที่ 22 เม.ย.นี้ ซึ่งได้เตรียมพยานหลักฐานในคดีนี้ไว้พอสมควร ซึ่งยืนยันความบริสุทธิ์มาโดยตลอด เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาศาลแาญาพิพากษานกฟ้องคดี ทุนมินลัต ซึ่งมีลูกเขยเเละลูกน้องของผม ซึ่งเป็นการยกฟ้องเด็ดขาดทั้งในเรื่องยาเสพติด อาชญกรรมข้ามชาติ เเละศาลได้พิจารณาว่าตำรวจได้สอบสวนผิดทิศทาง เเละได้ดำเนินคดีจำเลย4-5 คนซึ่งเป็นต้นเรื่องคดีทุนมินลัต ซึ่งเมื่อ4-5 คนไม่มีความผิด ผมซึ่งเป็น สว.เเละได้ขายธุรกิจที่ถูกกล่าวหาไปเเล้วก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งในวันนัดตรวจหลักฐานก็ได้เตรียมพยานเพิ่มอีก 2 ปาก คดีนี้กับ ทุนมินลัตเป็นข้อเท็จจริงเดียวกันหมดเเต่ก็จะต้องดำเนินกระบวนการจนมีคำพิพากษาไปเพราะอัยการสูงสุดคนที่เเล้วฟ้องเข้ามาเเล้วเเละคงไม่ถอนฟ้อง
เมื่อถามว่าเป็นกระบวนการกลั่นเเกล้งหรือไม่?
นาย อุปกิตกล่าวว่า กลั่นเเกล้งเเน่นอนในวันที่ 15 มี.ค.ที่ สว.จะอภิปรายรัฐบาลนี้ จะอภิปรายในสภาประเด็นนี้ด้วย เคยพูดถึงทฤษฎีสมคบคิดที่เอาไปอภิปรายในสภาหลังจากมีการจับกุมผู้ต้องหา 5 คนที่เกี่ยวเนื่องกับทุนมินลัต ซึ่งเป็นช่วงก่อนเลือกตั้ง 6 เดือนเเละมีพนักงานสอบสวนได้ให้เอกสารไปอภิปรายในสภาเเละมีการเผยเเพร่ข้อมูลในโซเชียลจึงเห็นได้ว่ามีการจัดทำเป็นขบวนการ ส่วนเรื่องจะฟ้องกลับคนที่กลั่นเเกล้ง หรือฟ้องกลับ อสส.หรือไม่ต้องรอให้คดีถึงที่สุดก่อน เเละจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายซึ่งก็ต้องดูรายละเอียดในคำพิพากษา ในส่วนทรัพย์สินตอนนี้ถูกอายัดชั่วคราวอยู่ในรายละเอียดตามที่เป็นข่าว
ขณะที่ นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความ นายอุปกิต กล่าวว่า เดิมที่ทนายความเตรียมไว้ 20 กว่าปาก ก็ประมาณเกือบ30 ปาก เเต่ในวันนัดตรวจหลักฐานครั้งหน้าก็จะเอาบัญชีพยานมาเทียบกับของอัยการว่ามีพยานปากไหนตรงกัน เพื่อจะได้ตัดพยานให้เหลือน้อยไม่ต้องสืบซ้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้อัยการโจทก์เตรียมพยานขึ้นเบิกความกว่า 38 ปาก ส่วนเอกสารมีจำนวนมากกว่า 28 ลัง