'ธนดล สุวัณณะฤทธิ์' ที่ปรึกษา 'ธรรมนัส พรหมเผ่า' รมว.เกษตรฯ ยื่นเรื่อง บช.ก. สอบข้าราชการ ส.ป.ก. หลังเกิดข้อพิพาทออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 โคราชทับป่า ชี้พฤติการณ์ดำเนินการรวดเร็วผิดปกติ สอบแค่ 3-4 เดือนเสร็จ แต่ยันผู้รับแจกเป็นเกษตรกรหมด รวมถึงหญิงสาววัย 25 มีนอมินีให้นักธุรกิจหรือไม่ รอผลตรวจตำรวจ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 22 ก.พ.2567 ที่ ชั้น 16 อาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เพื่อยื่นเรื่องร้องให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ข้าราชการ ส.ป.ก. หลังเกิดข้อพิพาทกรณีออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 จังหวัดนครราชสีมา โดยมิชอบ
นายธนดล กล่าวว่า วันนี้มายื่นเรื่องกับพล.ต.ต.จรูญเกียรติ มี 2 ประเด็น คือ เรื่องการชี้แนวเขต ซึ่งต้องรอแผนที่จากทหารที่ทำการรางวัดตรวจสอบรายละเอียดที่ดิน ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 อาทิตย์
ส่วนอีกประเด็นได้รับมอบหมายจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรฯ ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกร พบความผิดปกติในการปฏิบัติหน้าที่ ในการจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรมีความรวดเร็ว เนื่องจากใช้เวลาในการตรวจสอบเพียง 3-4 เดือน ก่อนจะออกเอกสารขอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ให้กับประชาชน
"ด้วยการจัดสรรที่ดินตามที่เห็นในข่าว ชี้ให้เห็นว่าพื้นที่ดินดังกล่าวว่าเป็นป่า ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ปี 2564 ประกอบระเบียบ 2566 ที่เป็นลักษณะห้วย หนอง และ บึง จะไม่สามารถจัดให้เป็นพื้นที่ ส.ป.ก.ได้ วันนี้จึงมายื่นเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจ บก.ปปป.ให้ตรวจสอบข้าราชการ ส.ป.ก. ที่มีพฤติกรรมปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พบข้อพิรุธในการออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ในส่วนกระทรวงเกษตรฯ ขอแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน ที่มีจนท.ปฏิบัติโดยมิชอบ ออกเอกสารส.ป.ก.ในพื้นที่ป่าก่อนที่จะได้รับการตรวจสอบได้อย่างไร รวมไปถึงขอโทษกรมอุทยานฯ ที่มีเอกสารแอบอ้างสิทธิ์ในการออกเอกสาร" นายธนดลกล่าว
นายธนดล กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่จะมีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้น ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้าราชการ ส.ป.ก. ส่วนผู้ที่ได้รับการจัดสรรทั้ง 12 แปลง จาก 59 แปลงนั้น เป็นเกษตรกรที่ได้รับเรื่องในการจัดสรรที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้มีการตรวจสอบบัตรประชาชนผู้ที่ยื่นคำร้อง ซึ่งบัตรประชาชนมีลิงค์ไปถึงข้อมูลส่วนตัว ผ่านระบบประกันสังคม ก่อนจะไปสุดปลายทางที่กรมที่ดิน แล้วจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติ ว่า มีสิทธิ์ได้รับการจัดสรรที่ดินหรือไม่
“ส่วนกรณีที่มีผู้หญิงอายุ 25 ปี ได้รับการจัดสรรที่ดิน สปก. 4-01 นั้น บุคคลดังกล่าว มีคุณสมบัติได้รับการจัดสรรจริง ซึ่งคุณสมบัติในการขอพื้นที่ใช้ประโยชน์นั้น จะต้องเป็นเกษตรกรเท่านั้น และมีค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน รวมไปถึงต้องมีสำเนาอยู่ในพื้นที่ หากเจ้าตัวย้ายออกไปอยู่นอกพื้นที่ แต่มีภูมิลำเนา ถิ่นฐานตามครอบครัวอยู่ในที่บริเวณดังกล่าว ก็สามารถมีคุณสมบัติการขอพื้นที่ดินส.ป.ก.จัดสรรได้ตามปกติ กรณีผู้ที่ได้รับการจัดสรรที่ดินส.ป.ก.มีการสวมสิทธิ์เป็นนอมินีให้กับนักธุรกิจหรือไม่นั้น ตรงนี้ขอยืนยันว่า ทั้งหมดผู้ที่ได้รับจัดสรรพื้นที่ดิน ส.ป.ก.เป็นเกษตรกรทั้งหมด แต่ก็ต้องรอให้ทางตำรวจตรวจรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง”
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้รับการประสานจากรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ส.ป.ก.เข้าข่ายพบพฤติกรรมทุจริต ซึ่งจะต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะเรียกเจ้าหน้าที่มาสอบปากคำ เพื่อสร้างความกระจ่างให้กับประชาชน ขอยืนยันว่าทุกอย่างจะทำเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ตำรวจบก.ป.ป.ป. ทำงานอย่างละเอียดและรวดเร็วต่อไป
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนระหว่าง ส.ป.ก. และกรมอุทยานฯ หลังจากเมื่อวานนี้ (21 ก.พ.) ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ได้มีการพูดคุยไปแล้ว และเมื่อวานก็มีการแถลงข่าวไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่พูดไว้
ส่วนกรณีที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ออกมาเปิดเผยว่ามีการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯกว่า 1.5 แสนไร่นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเท่าไหร่ก็ตาม ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย และเป็นไปตามแนวทางที่ได้หารือเมื่อวานนี้