ทีมโฆษกอัยการสูงสุด ออกโรงแถลงคดี 'ทักษิณ ชินวัตร' ถูกแจ้งข้อหา ม.112 -พ.ร.บ.คอมฯ ยันอดีต อสส. มีความเห็นสั่งฟ้องไปแล้วตั้งแต่ 19 ก.ย. 59 หลังเดินทางกลับไทย นำหมายจับไปแจ้งอายัดผู้ต้องหาไว้แล้ว ล่าสุด เจ้าตัวให้การปฏิเสธพร้อมยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม รอขั้นตอน อสส.คนปัจจุบันพิจารณาความเห็นมีคำสั่งทางคดีต่อไป ลั่นไม่ยืดเยื้อซ้ำรอย 'บอส อยู่วิทยา' แน่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ อาคารเอ ถ.แจ้งวัฒนะ นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายณรงค์ ศรีระสันต์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด อัยการพิเศษฝ่าย สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายแผนช่วยเหลือทางกฎหมาย นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาในมาตรา 112
นายประยุทธ เปิดเผยว่า คดีนี้ เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 59 สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ได้รับสำนวนคดีการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร จากพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ต.อ.โอฬาร สุขเกษม ผู้กล่าวหา นายทักษิณ ผู้ต้องหา ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์พระราชินี รัชทายาท และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 พ.ค.58 ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) และประเทศไทยเกี่ยวพันกันอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
"คณะทำงานพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทย ได้กระทำลงนอกราชอาณาจักรไทยจึงเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของอัยการสูงสุดเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินคดี ซึ่ง ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริการ อัยการสูงสุดในขณะนั้น ได้มีความเห็นเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 59 ตรวจพิจารณาสำนวนแล้ว ได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ ตามข้อกล่าวหา แต่เนื่องจากขณะนั้นผู้ต้องหาหลบหนี อัยการสูงสุดจึงแจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการออกหมายจับและพนักงานสอบสวนได้มีคำขอต่อศาลอาญาและออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 66 นายทักษิณ ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยและถูกควบคุมเพื่อรับโทษในคดีอาญาเรื่องอื่น พนักงานสอบสวนได้นำหมายจับไปแจ้งอายัดผู้ต้องหาไว้กับกรมราชทัณฑ์เรียบร้อยแล้ว" นายประยุทธกล่าว
นายประยุทธกล่าวต่อมา จากนั้นวันที่ 17 ม.ค. 67 นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน และคณะ ร่วมกับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี ได้เข้าแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมกับพฤติการณ์และข้อเท็จจริงทางคดีให้กับนายทักษิณ ทราบแล้ว
"ปรากฏว่า ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธพร้อมกับยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ซึ่งอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ได้ส่งบันทึกคำให้การชั้นสอบสวน และหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาให้กับพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบดำเนินคดี ประกอบสำนวนเพื่อส่งให้กับอัยการสูงสุดพิจารณา ขณะนี้สำนวนคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด ตรวจพิจารณาและทำความเห็นเบื้องต้นเสนออัยการสูงสุดเพื่อพิจารณา มีความเห็นและคำสั่งทางคดีต่อไป ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งอายัดตัว นายทักษิณ ไว้กับทางกรมราชทัณฑ์ตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว" นายประยุทธระบุ
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยังกล่าวย้ำว่า "ตามกฎหมาย ทางอัยการสูงสุดมีอำนาจในการออกความเห็นสามอย่างของสำนวนนี้คือ 1. ข้อเท็จจริงหากเห็นว่าข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนสามารถสั่งให้พนักงานอัยการไปสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม 2. หากข้อเท็จจริงเพียงพอแล้วให้ยืนตามความเห็นเดิมที่ว่า ให้สั่งฟ้องนายทักษิณตามข้อกล่าวหา 3. หากพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติกรรมไม่เข้าข่ายความผิดสามารถมีความเห็นไม่สั่งฟ้องนายทักษิณได้ ทั้งนี้ต้องพิจารณาตามคำร้องหนังสือขอความเป็นธรรมที่นายทักษิณแย้งมา ว่ามีข้อต่อสู้อะไรที่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในสำนวนได้หากไม่มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมได้"
ส่วน นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ส่วนประเด็นการอายัดตัวนายทักษิณ ขณะนี้ทางกรมราชทัณฑ์ยังไม่มีคำสั่งชัดเจนในการอายัดตัวนายทักษิณ จึงต้องรอคำสั่งความชัดเจนจากกรมราชทัณฑ์
"หากนายทักษิณได้รับการพักโทษในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ตามขั้นตอนกรมราชทัณฑ์จะต้องแจ้งพนักงานสอบสวน ล่วงหน้า 7 วันก่อนปล่อยตัว เพื่อให้ไปรับตัวนายทักษิณมาดำเนินคดีในคดี 112 และเมื่อพนักงานสอบสวนไปรับตัวแล้วจะพิจารณาเรื่องให้ประกันตัวหรือปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพนักงานสอบสวน หรือจะไปดำเนินการขั้นตอนการฝากขังผัดแรกของในคดี 112 และเมื่อพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วหรือรับตัวมาแล้วก็จะมีหนังสือมาแจ้งอย่างอัยการสูงสุดว่ามีการรับตัวนายทักษิณมาแล้วและอยู่ในขั้นตอนไหนของพนักงานสอบสวน และเมื่ออัยการได้รับขั้นตอนจากพนักงานสอบสวนมาแล้วหน้าที่ของอัยการจากนั้นจะต้องมาพิจารณาเอกสารการร้องขอความเป็นธรรมและพิจารณาสำนวนคดี
เมื่อถามเรื่องความกังวลสำหรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของนายทักษิณจะทำให้คดียืดเยื้อเหมือนกรณีของนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ที่มีการร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง
นายประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า "จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นแน่นอน เนื่องจากสำนักอัยการสูงสุดได้ถอดบทเรียนจากกรณีของบอส อยู่วิทยา พร้อมปรับแก้ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดในกรณีการร้องขอความเป็นธรรมโดย ผู้ถูกกล่าวหาจะต้องเป็นผู้มายื่นคำร้องด้วยตัวเองไม่สามารถให้ทนายความหรือบุคคลอื่นที่รับมอบอำนาจมายื่นให้โดยเด็ดขาด และหากเห็นว่าเป็นการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม กระทำไปเพื่อประวิงเวลา อัยการสูงสุดก็มีอำนาจในการยุติการร้องขอความเป็นธรรมได้เช่นกัน พร้อมขอให้สังคมเชื่อมั่นการทำงานของอัยการสูงสุดว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย"
@ ทักษิณ ชินวัตร
อ่านข่าวประกอบ :
- กราบพระบรมฉายาลักษณ์ ร.10! 'ทักษิณ' กลับถึงไทยแล้ว เครื่องบินลงจอด 09.08 น.
- หลังส่งตัว'ทักษิณ'! ศาลฎีกาฯ ยืนยันตัวจำเลย บังคับโทษ 3 คดี รวมติดคุก 8 ปี (3+5)
- ส่งตัว 'ทักษิณ' เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แยกขังเดี่ยวแดน 7 จัดจนท.เฝ้าระวัง 24 ชม.
- ไม่ได้อยู่ห้อง VIP-แอร์เสีย! อาการล่าสุด 'ทักษิณ' ดีขึ้นเล็กน้อย - งดเยี่ยมทุกกรณี
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระมหากรุณาอภัย ลดโทษให้ 'ทักษิณ' เหลือจำคุกต่อไปอีก 1ปี