ก.ต. ลงมติไล่ออก ข้าราชการตุลาการ 1 ราย หลังสอบสวนพบพฤติการณ์เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการพิจารณาพิพากษาคดีผู้ใต้บังคับบัญชาขาดความเป็นอิสระหรือความยุติธรรม เพื่อให้คู่ความได้เปรียบผลแห่งคดี เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เผยเป็นคนเดียว ผู้พิพากษาศาลฎีกา พันคดีรุกที่ภูเก็ต
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2567 สำนักคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ได้เผยแพรผลประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ครั้งที่ 5/2567 มีมติเห็นชอบไล่ออกราช ข้าราชการตุลาการ 1 ราย หลังพิจารณารายงานผลการสอบสวนอดีตข้าราชการตุลาการ กรณีมีพฤติการณ์เข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงการพิจารณาพิพากษาคดีของข้าราชการตุลาการอื่น ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาขาดความเป็นอิสระหรือความยุติธรรมในคดี เพื่อให้คู่ความได้เปรียบในผลแห่งคดี อันมีลักษณะเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้อื่น ซึ่งถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการและเป็นการไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของทางราชการ และจริยธรรมของข้าราชการตุลาการตามที่ ก.ต. กำหนด และการไม่ถือและปฏิบัตินั้นเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับข้าราชการตุลาการที่ถูกไล่ออกราชการครั้งนี้ มีตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา ที่ก่อนหน้านี้เคยปรากฏข่าวเข้าไปมีส่วนพัวพันกับการแทรกแซงกระบวนการต่อสู้คดีข้อพิพากษาที่ดินจำนวน 46 แปลง ระหว่างบริษัทเอกชนรายใหญ่แห่งหนึ่งกับคู่กรณี ซึ่งมีคดีฟ้องร้องกันจำนวนหลายคดีทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง จนกระทั่งบริษัทต้องยอมจ่ายเงินชดเชยจำนวน 400 ล้านบาท ระหว่างเป็นผู้บริหารศาลภาค 8 ซึ่งก่อนหน้านี้ ที่ประชุม ก.ต.มีมติใน 3 ประเด็น คือ 1. ให้พักราชการผู้พิพากษาศาลฎีการายนี้ 2. ให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และ 3. เห็นชอบไม่ให้ผู้พิพากษาศาลฎีการายนี้ ที่จะครบเกษียณอายุราชการในเดือนก.ย.2565 นี้ ขึ้นเป็นผู้พิพากษาอาวุโสซึ่งสามารถอยู่ในตำแหน่งได้จนถึงอายุ 70 ปี
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :
- โดน 3 เด้ง! ก.ต.สอบวินัยร้ายแรง 'พ.ศาลฎีกา’-พักงาน-ห้ามขึ้นอาวุโส พันคดีรุกที่ภูเก็ต
- ก.ต.ข้างมาก 9:6 ไม่เห็นชอบตั้ง‘ผู้พิพากษา’พันคดีรุกที่เรียกชดเชย 400 ล.เป็น‘หน.ฎีกา’
- ก.ต.ไล่ออกผู้พิพากษาพันคดีก๊วนรุกที่ภูเก็ตเรียก 400 ล.- ชงตั้งสอบวินัยร้าย พ.ฎีกา
- จ่อโดนสอบคดีอาญาซ้ำ! อนุฯ ป.ป.ช. ชงตั้งไต่สวนผู้พิพากษาพันก๊วนรุกที่ภูเก็ตเรียก 400 ล.