ปปง.สั่งอายัดเงิน 5 บัญชี 1.2 ล. ‘พิชามญชุ์ หอมหวล’ กับพวก คดีฉ้อโกงโฆษณาขายที่ดินจัดสรรโครงการป่าปง 63 แปลง จ.เชียงใหม่ ผู้เสียหายวางเงินดาวน์ จ่ายเงินงวดสุดท้ายครบ กลับโอนไม่ได้ มารู้ทีหลังไม่ขออนุญาต แห่แจ้งความ สภ.สารภีกว่า 21 ราย ศาลออกหมายจับ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย. 15/ 2567 ลงวันที่ 9 ม.ค.2567 เรื่อง อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ราย นางสาวพิชามญชุ์ หอมหวล กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา เป็นเงินในบัญชีเงินฝาก 5 บัญชีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,293,131.33 บาท พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 7 เมษายน 2567
พฤติการณ์คือโฆษณาขายที่ดินจัดสรรโครงการจัดสรรที่ดินตามผังโครงการป่าปง จำนวน 63 แปลง ผ่าน Facebook ผู้เสียหายได้โอนเงินงวดสุดท้าย แต่นางสาวพิชามญชุ์ หอมหวล กับพวก ไม่นำเงินไปชำระค่าที่ดินให้แก่เจ้าของที่ดิน จึงไม่สามารถโอนขายที่ดินให้กับผู้เสียหายได้จนเป็นเหตุให้ผิดสัญญา และทราบภายหลังว่าที่ดินดังกล่าวไม่สามารถขออนุญาตจัดสรรได้ มีผู้เสียหายทั้งสิ้น 21 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 7,614,206 บาท มีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสารภี
คำสั่งอายัดทรัพย์มีรายละเอียดดังนี้
ด้วยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้รับรายงานจากสถานีตำรวจภูธรสารภี ตามหนังสือที่ ตช 0020(ชม).4(23)ส/2110 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 เรื่อง ส่งแบบรายงานตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ราย นางสาวพิชามญชุ หอมหวล กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา กล่าวคือ
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2564 นางสาวพิชามญชุ หอมหวล นายคณิศร บุญศิริ บริษัท สิริรดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และ บริษัท ศิระ99 จำกัด โดยมีนายคณิศร บุญศิริ เป็นกรรมการผู้จัดการ ได้โฆษณาเกี่ยวกับโครงการจัดสรรที่ดินตามผังโครงการป่าปง จำนวน 63 แปลง โดยติดตั้งป้ายโฆษณาบนที่ดิน รวมไปถึงการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Facebook) ในเพจขายอสังหาริมทรัพย์ที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้
โดยทำการเสนอขายที่ดินดังกล่าว ซึ่งมีประชาชนสนใจทำสัญญาพร้อมวางเงินดาวน์ และผ่อนค่างวดเป็นจำนวนมาก
ต่อมาเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 ผู้เสียหายได้โอนเงินงวดสุดท้ายให้กับนางสาวพิชามญชุ์หอมหวล กับพวก ภายหลังทราบว่านางสาวพิชามญชุ หอมหวล กับพวก ไม่นำเงินไปชำระค่าที่ดินให้แก่เจ้าของที่ดินจึงไม่สามารถโอนขายที่ดินให้กับผู้เสียหายได้จนเป็นเหตุให้ผิดสัญญา และทราบภายหลังว่าที่ดินดังกล่าวไม่สามารถขออนุญาตจัดสรรได้ สำหรับโครงการป่าปงมีผู้เสียหายทั้งสิ้น 21 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 7,614,206 บาท
เจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวภูธรสารภีได้รับคำร้องทุกข์และดำเนินคดีอาญาที่ 281/2566 และเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2566 เจ้าพนักงานตำรวจได้จับกุม นางสาวพิชามญชุ์ หอมหวล และนายคณิศร บุญศิริ ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.449/2566 และ จ.450/2566 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ต่อมาสถานีตำรวจภูธรสาร ได้รายงานข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติม ในกรณีได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงเพื่อจัดสรรที่ดินอีกหลายแปลง นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมกับสถานีตำรวจภูธรสารภี ในคดีอาญาที่ 300/2566 รวมถึงสถานีตำรวจในท้องที่อื่นๆ ซึ่งมีพฤติการณ์แห่งคดีลักษณะเดียวกัน
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ทำการยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ตามคำร้องฝากขังที่ 382/2566 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2566 ปัจจุบันนางสาวพิชามญชุ์ หอมหวล ถูกขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่และส่วนนายคณิศร บุญริ ถูกขังอยู่ที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ โดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องนางสาวพิชามญชุ์ หอมหวล กับพวก ในฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ร่วมกันจัดสรรที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาต
พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ได้ยื่นฟ้องนางสาวพิชามญชุ หอมหวล กับพวก ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานความผิด ร่วมกันจัดสรรที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาตร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาตรา 91 มาตรา 341 มาตรา 343 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3 มาตรา 14 และพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 มาตรา 4 มาตรา 21 มาตรา 59 กรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านางสาวพิชามญชุ หอมหวล กับพวก มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านางสาวพิชามญชุ หอมหวล กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
ในการนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 8/2566 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 ที่ประชุม มีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ประกอบกับคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ม.552/2566 ลงวันที่ 4 กันยายน 2566 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รายนางสาวพิชามญชุ์ หอมหวล กับพวก พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวแล้ว ปรากฎหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่านางสาวพิชามญชุ หอมหวล กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทำเกี่ยวข้องกับกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาตามมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้อง หรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงินและจากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดรวมทั้งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 5 รายการ พร้อมดอกผลและเนื่องจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้เป็นสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารอันเป็นทรัพย์สินที่สามารถโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นได้โดยง่ายหากมิได้มีการออกคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราวเมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสีย หรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือช่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสียและหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นางสาวพิชามญชุ หอมหวล กับพวกได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 (3) และมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุมครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรม ว่าด้วยการรับเรื่องการตรวจสอบ การพิจารณาดำเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25 คณะกรรมการธุรกรรม จึงมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 5 รายการ พร้อมดอกผล ได้แก่
1. เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์ สาขาบ่อสร้างเลขที่บัญชี 553-0-34253-1 ชื่อบัญชี นางสาวพิชามญชุ์ หอมหวล ยอดเงินคงเหลือจำนวน 64,855.47 บาท (หกหมื่นสี่พันแปดร้อยห้าสิบห้าบาทสี่สิบเจ็ดสตางค์) (ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2566)
2. เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเภทกระแสรายวันสาขาถนนท่าแพ เชียงใหม่ เลขที่บัญชี 172-2-6.521-7 ชื่อบัญชี นายคณิศร บุญศิริ ยอดเงินคงเหลือ จำนวน 1,199,637.26 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนเก้าหมื่นเก้าพันหกร้อยสามสิบเจ็ดบาทยี่สิบหกสตางค์)(ณ วันที่ 12 กันยายน 2566)
3. เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์สาขาบ่อสร้าง เลขที่บัญชี 141-3-11209-1 ชื่อบัญชี บจก.ศิระ 99 ยอดเงินคงเหลือจำนวน 4,771 บาท (สี่พันเจ็ดร้อยเจ็ดสิบเอ็ดบาทถ้วน) (ณ วันที่ 12 กันยายน 2566)
4. เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์สาขามีโชคพลาซ่า เลขที่บัญชี 108-1-64466-3 ชื่อบัญชี นางสาวพิชามญชุ์ หอมหวล ยอดเงินคงเหลือจำนวน 14,546.60 บาท (หนึ่งหมื่นสี่พันห้าร้อยสี่สิบหกบาทหกสิบสตางค์) (ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2566)
5. เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประเภทออมทรัพย์ สาขาบิ๊กซีเชียงใหม่ บัญชีเลขที่ 842-2-41938-8 ชื่อบัญชี นายคณิศร บุญศิริ ยอดเงินคงเหลือจำนวน 9,321 บาท (เก้าพันสามร้อยยี่สิบเอ็ดบาทถ้วน) (ณ วันที่ 19 กันยายน 2566)
รวมจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,293,131.33 บาท (หนึ่งล้านสองแสนเก้าหมื่นสามพันหนึ่งร้อยสามสิบเอ็ดบาทสามสิบสามสตางค์) พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 7 เมษายน 2567
ทั้งนี้ ให้รวมถึงเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการจำหน่าย จ่าย โอนด้วยประการใด ๆซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวหรือสิทธิเรียกร้องหรือผลประยชน์หรือดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวด้วย
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า บริษัท สิริรดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 19 สิงหาคม 2564 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบการรับเหมาก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย และที่ไม่ใช่ที่พักอาศัยจัดสรรที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ก่อสร้างพัฒนาเพื่อจำหน่าย ที่ตั้งเลขที่ 168/2 หมู่ 5 ตำบลดอนแก้ว อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ นายคณิศร บุญศิริ เป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่ ร่วมกับ นางสาวพิชามญชุ์ หอมหวล
ส่วน บริษัท ศิระ 99 จำกัด จดทะเบียนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2558 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบการรับออกแบบและประกอบตู้ควบคุมไฟฟ้า ที่ตั้ง 99/10 ซอยเจริญกุล 3 ถนนสายลวด ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ นายคณิศร บุญศิริ เป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลศาลพิพากษาว่าบุคคลดังกล่าวกระทำความผิดตามข้อกล่าวหารือไม่