ปปง.สั่งอายัดทรัพย์คดี บ. โกล์เดนเก็ต กรุ๊ปฯ พวก 32 บัญชี 6.5 แสน ฟอกเงินฉ้อโกงชักชวนซื้อสินค้าทางเกษตรได้รับเป็นหุ้น พร้อมผลตอบแทนกลับคืนสูง 551% หลังดีเอสไอชงเรื่องตั้งแต่ปี 2550 ศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาลงโทษจำคุก-ปรับ เช็กสถานะถูกขีดชื่อ ร้างนานแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) มี คำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย. 17/ 2567 เรื่อง อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายบริษัท โกล์เดนเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญาหรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หลังได้รับรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามหนังสือ ลับ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2550 ทรัพย์ที่ถูกอายัด ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝาก 32 บัญชี 561,291.03 บาท พร้อมดอกผลมีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 7 เมษายน 2567
คำสั่งระบุว่า สำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามหนังสือ ลับ ที่ ยธ 1808/278 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2550 เรื่อง แจ้งข้อมูลการดำเนินคดีอาญาตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 รายบริษัท โกล์เดนเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญาหรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กล่าวคือ
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 255- ถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2550 บริษัทโกล์เดนเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ต้องหาที่ 12 โดยนางสาวปาลระพีร์หรือกันธิชา เปี่ยมเจริญ ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 13 คน ได้ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยร่วมกันชักชวนด้วยวาจารายบุคคลและจัดเป็นกลุ่มบรรยายให้บุคคลทั่วไปทราบว่า ถ้าสมัครเป็นสมาชิกและซื้อสินค้า เช่น ข้าวสาร ปุ๋ย เป็นต้น ในราคา 1,450 บาท ถือเป็น 1 หุ้น หากไม่รับสินค้า และนำสินค้าไปฝากขาย จะได้รับเงินค่าสินค้า 750 บาท และหลังจากนั้นประมาณ 30 วัน จะได้รับเงินคืน 500 บาท และอีก 60 วันจะได้รับเงิน 1,500 บาท รวมเป็นเงินที่ได้รับคืน 2,750 บาท ภายในระยะเวลา 90 วัน คิดเป็นผลตอบแทนได้ร้อยละ 551.72 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ยังปรากฎว่า นางสาวปาลระพีร์หรือกันธิชา เปี่ยมเจริญ ผู้ต้องหาที่ 1 นายภูกิจหรือพีระพณ หรือพีระพงษ์หรือโชติวิชญ์ โชติสกุลธรรม หรือเจริญธรรม ผู้ต้องหาที่ 3 และนางสาวธิดากร หรือดาวชญาญ์หรืออรัญญา โชติสกุลธรรมหรือรางนาค ผู้ต้องหาที่ 5 เปิดบัญชีธนาคารรับโอนเงินจากสมาชิกที่เป็นผู้เสียหาย และมีการโอนเข้าบัญชีอื่น 1 อีกหลายบัญชี หรือถอนเป็นเงินสดทันทีทันใดในช่วงระยะเวลาอันสั้นภายหลังจากที่มีการโอนเงินเข้ามาในบัญชีนั้น ๆ และในแต่ละบัญชีมีเงินอยู่จำนวนไม่มากพอที่จ่ายให้แก่ผู้เสียหาย ต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคดีนี้ไว้เป็นคดีพิเศษที่ 64/2550 และมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสิบสามคนในความผิด ฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญาและมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 ผู้ต้องหาที่ 3 และผู้ต้องที่ 5 ในความผิดฐานฟอกเงิน หลังจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาที่ 2 ถึงผู้ต้องหาที่ 13 ส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนผู้ต้องหาที่ 1 หลบหนียังไม่สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้
โดยศาลจังหวัดเชียงใหม่พิพากษาว่า บริษัท โกล์เดนเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ต้องหาที่ 12 นายสมภพหรือนฤต สุขวัฒนะ ผู้ต้องหาที่ 2 นายภูกิจหรือพีระพณหรือพีระพงษ์หรือโชติวิชญ์ โชติสกุลธรรมหรือเจริญธรรม ผู้ต้องหาที่ 3 นายวิชัย สังขวรรณะ ผู้ต้องหาที่ 4 นางสาวธิดากรหรือดาวชญาญ์หรืออรัญญา โชติสกุลธรรมหรือรางนาค ผู้ต้องหาที่ 5 และนายพงศ์ศิริ เจริญศุภวิชญ์ ผู้ต้องหาที่ 6 มีความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนพ.ศ. 2527 และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา พิพากษาลงโทษจำคุกและปรับ ส่วนผู้ต้องหาอื่นให้ยกฟ้อง อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐาน ตามมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบริษัท โกล์เดนเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
ในการนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 25/2550 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2550 ที่ประชุมมีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ประกอบกับคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ที่ ม. 134/2550 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2550 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รายบริษัท โกล์เดนเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กับพวก คำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ ม. 341/2564 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) รายบริษัท โกล์เดนเก็ตกรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กับพวก คำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ ม. 289/2566 ลงวันที่ 27 เมษายน 2566 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมและทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) รายบริษัท โกล์เดนเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กับพวกและคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ ม 567/2566 ลงวันที่ 19 กันยายน 2566 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) รายบริษัท โกล์เดนเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กับพวก พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวแล้ว ปรากฎหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าบริษัท โกล์เดนเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาหรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน และจากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมทั้งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฎว่าบุคคลดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 32 รายการ พร้อมดอกผล
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ทรัพย์สินที่ถูกอายัดตามคำสั่งดังกล่าว ได้แก่ เงินในบัญชีเงินฝากในชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์/ผู้ครอบครอง เป็น นิติบุคคลและบุคคล รวม 7 ราย 32 บัญชี 561,291.03 บาท ประกอบด้วยเงิน ให้บัญชีเงินฝากธนาคาร ในชื่อ บริษัท โกล์เดนเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ถือกรรมสิทธิ์/ผู้ครอบครอง 5 บัญชี ในชื่อ เจริญธรรมพัฒนกิจเทรดดิ้ง 3 บัญชี , น.ส.ปานระพี หรือ กันธิชา เปี่ยมเจริญ 10 บัญชี , นายนฤตหรือสมภพ สุขวัฒนะ 4 บัญชี , นายวิชัย สังข์วรรณะ 3 บัญชี , น.ส.ธิดากรหรือ ดาวชญาญ์หรือ อรัญญา โชติสกุลธรรม หรือ รางนาค 3 บัญชี ,นายพงศ์ศิริหรือสุรพัศ เจริญศุภวิชญ์ หรือ พึ่งสว่าง 4 บัญชี รวม 32 รายการ (บัญชี) เป็นเงินทั้งสิ้น 561,291.03 บาท (ดูเอกสารท้ายข่าว)
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า บริษัท โกล์เดนเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนวันที่ 11 กรกฎาคม 2540 ทุน 1 ล้านบาท แจ้งประกอบการล่าสุด รับจัดระบบไฟฟ้า ติดตั้งและซ่อมระบบไฟฟ้าทั้งภายในและภายนอกอาคาร ที่ตั้งเลขที่ 23 ถนนสวนสยาม แขวงคันนายาว เขตคันนายาว จังหวัดกรุงเทพมหานคร นางสาว ปาลระพีร์ เปี่ยมเจริญ เป็นกรรมการ ปัจจุบันมีสถานะเป็นบริษัทร้างซึ่งนายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555