อดีต ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เบิกความไต่สวนคดีฟ้อง 'พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล' กรณีถูกสอบเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาปี 2565 หลังผลสอบสวนพยานหลักฐานฟังไม่ได้ว่ามีความผิด ยันต้องการพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏ ยังไม่ถึงเวลาไกล่เกลี่ย ศาลนัดอีกครั้ง 11 มี.ค. 2566
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ คดีหมายเลขดำ อ.3100/2566 ที่พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผู้บังคับการประจำ บช.ส. อดีต ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา สืบเนื่องจากการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน พาดพิงเกี่ยวกับการร้องเรียนว่ามีการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา จากกรณีเมื่อวันที่ 18 ต.ค.2565 มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน บุกพูลวิลล่าย่านหาดจอมเทียน พัทยา และใช้อาวุธปืนยิงยางรถยนต์ของคู่อริ รวมทั้งทำร้ายร่างกายจนมีบาดเจ็บ
ภายหลังขึ้นเบิกความไต่สวนต่อศาลเสร็จแล้ว พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้มาเบิกความไต่สวนคดีฟ้อง “บิ๊กโจ๊ก”หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งมองว่าตนเองได้รับความเสียหายจากการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน จึงมาใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย และตนเองได้เบิกความต่อศาล ยืนยันข้อเท็จจริงตามคำฟ้อง แต่ว่ายังไม่จบ ในนัดหน้าวันที่ 11 มี.ค.2567 จะมีทนายความจำเลยถามค้านและทนายความโจทก์ถามติงตามกระบวน จากนั้นศาลจึงจะนัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องคดีหรือไม่
พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในวันนี้มีทนายความของจำเลยมาใช้สิทธิ์ถามค้านด้วย ซึ่งก็รู้จักกันอยู่ก่อนแล้ว แต่ประเด็นที่ศาลจะให้โจทก์และจำเลยทั้งสองฝ่ายพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยกันนั้นก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ และเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะไกล่เกลี่ย ในชั้นนี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ ให้ศาลไต่สวนและนัดฟังคำสั่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าเกี่ยวกับการเจรจาไกล่เกลี่ยนั้น ทนายความ “บิ๊กโจ๊ก”แจ้งว่าถ้าโจทก์มีข้อเสนออะไรก็ให้บอกมาได้
พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวว่า ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายก่อน ยังไม่ถึงตรงนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีที่ท่านถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว
พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวว่า ต้องแยกเป็น 2 ประเด็นในส่วนของการสอบสวนทางวินัย นั้นยุติไปตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายน ปีที่แล้ว ด้วยมีมติ 8 ต่อ 0 ว่าตนเองไม่มีความผิด โดยไม่มีใครคัดค้าน ส่วนของคดีข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบก็ไปว่ากัน คาดว่าสำนวนคดีจะถูกส่งไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ (ป.ป.ช.)แล้ว ทั้งในส่วนที่ตนเองถูกแจ้งข้อกล่าวหา และที่ตนเองแจ้งความคู่กรณีไว้ที่สภ.เมืองชลบุรี ความผิดข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กลั่นแกล้งให้ต้องหาคดีอาญาและข้อหาอื่นๆ ซึ่งแต่ละคนจะมีความผิดแตกต่างกันไปตามข้อเท็จจริง
พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวอีกว่า ไม่กังวลกับคดีนี้ เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม เชื่อมั่นในกระบวนการของศาล ถือว่าตนเองใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง เวลามาศาลก็ไม่เคยแต่งเครื่องแบบ ลาราชการมาถูกต้องเหมือนประชาชนทั่วไป ไม่ได้มีอภิสิทธิ์อะไร ปัจจุบันตนเองก็ยังรับราชการปฏิบัติหน้าที่ อยู่ในตำแหน่งหน้าที่มาโดยตลอด ไม่ได้โดนคำสั่งให้ออกไว้ก่อน ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด สิ่งที่ตนเองถูกกล่าวหา นั้นไม่ได้ทำ ที่ใช้สิทธิ์ทุกช่องทางก็เพื่อพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์คดีดังกล่าวนี้ ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงมากเพียงใด
พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวว่า กระทบมาก เป็นเรื่องปกติที่เวลาถูกกล่าวหาถูกตรวจสอบก็จะมีผลกระทบตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งเรื่องหน้าที่การการงาน สังคมเพื่อนฝูง
“ผมไม่ได้ทำอะไรผิด เรียนกับทุกคนว่าความจริงมีหนึ่งเดียว ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ความจริงจะอยู่ตลอดไปทุกวันนี้ที่ผมสู้ สู้เพื่อพิสูจน์ความจริง”