ป.ป.ช.เผยแพร่ข่าวภาค 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนครพนม จับกุมตัว 'สวาง พิทักเทพ' อดีตกรรมการสภาวัฒนธรรมตำบลน้ำก่ำ ตั้งกลุ่มเพื่อรับเงินเสียหายกว่า 4 ล้าน ควบคุมตัวส่งอัยการ ฟ้องร้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 4 แล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ข่าว ป.ป.ช. ภาค 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนครพนม จับกุม นายสวาง พิทักเทพ อดีตกรรมการสภาวัฒนธรรมตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ตั้งกลุ่มเพื่อรับเงิน เสียหายกว่า 4 ล้านบาท
สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า วานนี้ (วันที่ 7 มกราคม 2567) ภายใต้การอำนวยการของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 ของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนครพนม จับกุมนายสวาง พิทักเทพ อดีตกรรมการสภาวัฒนธรรมตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จ.313/2566 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ของศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบภาค 4 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151, 152, 157 ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 ซึ่งสามารถดำเนินการจับตัวได้ในพื้นที่จังหวัดนครพนม
นายสวาง พิทักเทพ เมื่อครั้งเป็นกรรมการสภาวัฒนธรรมตำบลน้ำก่ำ หมู่ที่ 1 ได้ตั้งกลุ่มสภาวัฒนธรรมเพื่อรองรับในการที่เทศบาลตำบลน้ำก่ำจะสนับสนุนเงินอุดหนุนในปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ในโครงการปรับปรุง ภูมิทัศน์หาดแห่ บ้านน้ำก่ำกลาง หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม จำนวน 2 ครั้ง เป็นเงิน 4,000,000 บาท ซึ่งการสนับสนุนดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่องหลักเกณฑ์การสนับสนุนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล ในการให้บริการสาธารณะ ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2552 เนื่องจากการสนับสนุนดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบ จากคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นรายกรณีไป และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 21 การจ่ายเงินอุดหนุนโครงการดังกล่าวเป็นการกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงการประกวดราคาตามข้อ 15 ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม การกระทำดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่เทศบาลตำบลน้ำก่ำ
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายสวาง พิทักเทพ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 (ศาลจังหวัดนครพนม ออกแทน) ที่ จ. 313/2566 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 160 หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 จึงได้ประสานกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนครพนม เพื่อวางแผนและร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ
โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เดินทางไปยังพื้นที่ พบนายสวาง พิทักเทพ อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว จึงได้แสดงหมายจับ และให้นายสวาง พิทักเทพ ดูและอ่านจนเข้าใจรายละเอียด ซึ่งนายสวางฯ รับและยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับ และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งสิทธิ แจ้งพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิด และแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบดีแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวนายสวางฯ มาที่สถานีตำรวจภูธรธาตุพนมเพื่อบันทึกการจับกุม และจักได้นำตัวส่ง อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป