กมธ.เสรีภาพศาสนา สหรัฐฯ จี้ไทย อย่าส่งตัวนักเคลื่อนไหวชาวม้งกลับเวียดนาม หลังหนีเหตุปราบปรามเข้าไทยโดยผิดกฎหมาย หวั่นโดนโทษ 20 ปี หากส่งตัวกลับ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศที่เชื่อมโยงถึงประเทศไทยว่าสำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียของสหรัฐอเมริกาได้รายงานข่าวเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ว่า รองประธานคณะกรรมาธิการว่าด้วยเสรีภาพทางศาสนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USCIRF)ได้เรียกร้องให้ประเทศไทยอย่าส่งตัวนายลู อา ดา นักเทศน์ชาวม้ง และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนลู อา ดา กลับไปยังประเทศเวียดนาม
โดยนายเฟรดเดอริก เดวี รองประธานฯ ได้ออกมาเรียกร้องเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. หลังจากที่มีรายงานข่าวว่านายลูถูกตำรวจไทยจับกุมและต่อมาเจ้าหน้าที่ก็คุมขังเขาที่ศูนย์กักกันคนเข้าเมืองกรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจับกุมตัวนายลู หัวหน้าแนวร่วมสิทธิมนุษยชนม้ง อดีตมิชชันนารีและนักเทศน์ที่คริสตจักรอีแวนเจลิคัลซึ่งมีโบสถ์ที่ภาคเหนือของเวียดนาม โดยจับกุมตัวเขาที่บ้านเช่าในกรุงเทพเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.
การจับกุมตัวนายลูเกิดขึ้นสองสัปดาห์หลังจากที่นายลูออกมาประณามรัฐบาลเวียดนามต่อหน้าสาธารณชนว่ารัฐบาลเวียดนามได้ดำเนินการปราบปรามชุมชนชาวม้งอย่างเป็นระบบ
อนึ่งนายลูและครอบครัวหนีออกจากเวียดนามในปี 2563 เพื่อหลบหนีจากเหตุการข่มเหงทางชาติพันธ์และศาสนาและเข้ามาอยู่ที่ประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายเพื่อขอสถานะผู้ลี้ภัยอย่างเป็นทางการ
“USCIRF มีความเเป็นห่วงนายลู อาดา นักเคลื่อนไหวและนักเทศน์ชาวม้งที่หลบหนีการข่มเหงทางศาสนาในเวียดนาม” นายเดวีทวีตผ่านทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งบทบาทของคณะกรรมาธิการฯ ในปัจจุบันนั้นเป็นหน่วยงานอิสระของรัฐบาลสหรัฐฯ ดำเนินการร่วมกันภายใต้สองพรรคการเมือง (เดโมแครตและรีพับลิกัน) เพื่อตรวจสอบ วิเคราะห์ และรายงานเกี่ยวกับภัยคุกคามเสรีภาพทางศาสนาทั่วโลก
“ปัจจุบันเขาถูกควบคุมตัวโดยสํานักงานตํารวจแห่งชาติของไทย และกําลังเผชิญความเสี่ยงว่าจะถูกเนรเทศกลับไปยังเวียดนามเนื่องจากการเคลื่อนไหวของเขา” นายเดวีกล่าว
มีรายงานว่าในวันเดียวกันนี้ (21 ธ.ค.) นายเอริค อูลานด์ คณะกรรมาธิการ USCIRF ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ของกรรมาธิการฯ เรียกร้องให้ทีมบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้องยกระดับการปฏิบัติของประเทศไทยในการเนรเทศสมาชิกของชนกลุ่มน้อยทางศาสนาที่เปราะบางกลับไปยังประเทศบ้านเกิดที่พวกเขาต้องเผชิญกับการข่มเหง กักขังและการทรมานต่างๆ
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของไทยได้ควบคุมตัวเหยื่อชาวเวียดนามคนอื่น ๆ ที่หนีจากการประหัตประหารทางศาสนาและการปราบปรามโดยรัฐบาลเวียดนามแล้วเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายเป็ยจำนวนมาก
ปัจจุบันมีผู้ขอลี้ภัยชาวม้งมากกว่า 1,000 คนอาศัยอยู่ในประเทศไทย ตามรายงานของแนวร่วมสิทธิมนุษยชนม้ง เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ เจ้าหน้าที่จึงสามารถจับกุมผู้ขอลี้ภัยได้โดยไม่ต้องให้เหตุผลแต่อย่างใด
ทั้งนี้หากหากผู้ลี้ภัยถูกเนรเทศกลับไปยังเวียดนาม พวกเขาอาจถูกตัดสินจําคุกสูงสุด 20 ปีตามประมวลกฎหมายอาญาในข้อหา "หลบหนีออกนอกประเทศหรืออยู่ต่างประเทศเพื่อต่อต้านรัฐบาลของประชาชน"
เรียบเรียงจาก:https://www.rfa.org/english/news/vietnam/hmong-activist-12212023153600.html