'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' เผยหลังเข้าไต่สวนพยานบุคคล คดีถือหุ้น ITV เป็นไปตามที่คาดหวัง-พอใจกับกระบวนการ-24 ม.ค. 2567 ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2566 ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังเข้าไต่สวนพยานบุคคล กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อสารมวลชนใด ๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ สส. ของผู้ถูกร้อง สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่
นายพิธา กล่าวว่า เป็นไปตามที่คาดหวัง พอใจกับกระบวนการ ได้ไต่สวนถึงข้อเท็จจริงตามที่ตั้งใจไว้ ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะถือว่าเป็นการละเมิดศาล แต่ในส่วนข้อเท็จจริงที่สื่อมวลชนนำเสนอเกี่ยวกับการยุติการประกอบกิจการของ itv หรือเรื่องฐานะผู้จัดการมรดกของตน ก็ได้รับการไต่สวนจากทางศาล จากทางฝ่ายกฎหมายของผู้ร้องและผู้ถูกร้อง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
"ผมรู้สึกพอใจและเป็นไปตามที่หวังไว้ทุกประการ แล้วก็ต้องรอฟังข่าวเผยแพร่ทางศาลนัดวันฟังคำพิพากษาที่น่าจะออกมาในช่วงบ่ายวันนี้ วันนี้ได้ทำเต็มที่อย่างที่ตั้งใจไว้ มั่นใจตั้งแต่ก่อนเข้าไปและตอนนี้ก็มั่นใจว่าได้ ทำตามหน้าที่ของผู้ถูกร้องอย่างเต็มที่แล้ว ไม่มีความคาดหวังใดต่อศาลแต่มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรทและความยุติธรรมในกรณีนี้ หวังว่าจะได้กลับไปรับใช้พี่น้องในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร" นายพิธา กล่าว
ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกรณีข้างต้น มีรายละเอียดดังนี้
คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของบายพิชา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 23/2566)
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใด ๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3)
ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องว่างลงนับแต่วันที่ศาสรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยให้แก่คู่กรณีฟังตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 105 วรรคหนึ่ง (2) ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัยและสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนับแต่วันที่ 19 กรกฏาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ต่อมาผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
พร้อมบัญชีระบุพยานเอกสาร พยานบุคคล และพยานวัตถุ ฉบับลงวันที่ 2 ตุลาคม 2566 และบัญชีระบุพยานบุคคลเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่ 18 ตุลาคม 2566
ผลการพิจารณา
ศาลรัฐธรรมนูญใต่สวนพยาน รวม 3 ปาก คือ นายแสวง บุญมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายคิมห์ สิริทวีชัย โดยตอบข้อชักถามของศาลและของคู่กรณี คตีเป็นอันเสร็จการไต่สวน ศาลนัดฟังคำวินิจฉัย ในวันพุธที่ 24 มกราคม 2567 เวลา 14.00 นาฬิกา