ศาลอาญา พิพากษาจำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา 'รักชนก ศรีนอก' สส.ก้าวไกล คดีมาตรา 112 ถูกพาไปห้องควบคุมตัวแล้ว -ด้าน 'ชัยธวัช ตุลาธน หน.พรรคฯ ในฐานะทนายความ ใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัวทันที พร้อมเงินสด 3 แสน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2566 เวลา 9.00 น. ศาลอาญานัดน.ส.รักชนก ศรีนอก สส.พรรคก้าวไกล ฟังคำพิพากษาเป็นจำเลยในความผิดฐาน ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์พ.ศ.2550 มาตรา3,14
โดยศาลอาญา มีคำพิพากษา จำคุก น.ส.รัชนก เป็นเวลา 6 ปี ไม่รอลงอาญา พิจารณาเเล้วเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 เเละ พรบ.คอมพิวเตอร์ให้ลงโทษบทหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 การกระทำเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันลงโทษกรรมละ 3 ปี รวมจำคุก 6 ปี
คดีนี้ศาลฯ พิเคราะห์ คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้าง แล้ว เห็นว่าฝ่ายโจทก์ มีพนักงานสอบสวน และผู้ที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งเบิกความไปตามจริง ไม่เคยรู้จักจำเลยมาก่อน จึงไม่มีเหตุที่จะเบิกความกลั่นแกล้งใส่ร้ายจำเลยให้ต้องรับโทษ รวมทั้งพยานหลักฐานอื่นๆ ก็ยืนยันจากข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ จริง พยานหลักฐานโจทก์มีนำหนักน่าเชื่อถือ
ส่วนที่จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดีมาโดยอ้างว่า ไม่ได้กระทำผิด โดยไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของจำเลยเพื่อหาข้อเท็จจริง และที่จำเลยอ้างว่า มีความยึดถือการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข นั้น มีข้อพิรุธ และความขัดแย้งของตัวเอง ไม่ขวนขวายหาข้อเท็จจริงกับแนวทางข้อต่อสู้ของจำเลยมีน้ำหนักน้อย ไม่น่าเชื่อถือ ผิดวิสัย ทั้งยังลงภาพและถ้อยคำ"แซะ" สถาบันด้วย เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ เป็นความผิดหลายกรรมให้ลงโทษทุกกรรมตามความผิด
จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ให้ลงโทษตาม มาตรา 112 อันเป็นบทหนักสุด รวม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 3 ปี รวมจำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา
ภายหลังฟังคำพิพากษา น.ส. รักชนก ยังมีสีหน้ายิ้มเเย้ม เเละถูกพาไปห้องควบคุมตัว
ก่อนที่ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะทนายความ จะใช้ตำเเหน่งยื่นประกันน.ส. รักชนก ทันที
ก่อนหน้านั้น นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะทนายความ เปิดเผยก่อนเข้ารับฟังคำพิพากษาว่า หากคำพิพากษาออกมาไม่เป็นผลดี ก็จะเข้าสู่กระบวนการประกันตัว ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา และที่ผ่านมาก็ได้มีการต่อสู้คดีมาอย่างเต็มที่
ส่วน น.ส. รักชนกเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นคำร้องเลื่อนฟังคำพิพากษา เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกของการเปิดสมัยประชุมสภา แต่ศาลไม่อนุญาต โดยตนมั่นใจในพยานหลักฐาน และคิดว่าหากเป็นไปตามข้อต่อสู้ก็มีโอกาสที่จะชนะคดี
ต่อมา นายชัยธวัช ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นประกันตัวโดยใช้ตำแหน่งตนเองและหลักทรัพย์เงินสดจำนวน 300,000 บาท ประกอบในการยื่นประกันตัว คาดว่าจะทราบผลการประกันตัวในช่วงบ่ายวันนี้ โดยภายหลังจากตนเองประชุมสภาเสร็จเรียบร้อยแล้วจะเดินทางมาติดตามผลในช่วงบ่ายด้วย ส่วนหลังจากนี้จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ต้องรอฟังผลการขอยื่นประกันตัวก่อน
นายชัยธวัช ยืนยันว่า คดีนี้เกิดขึ้นก่อนที่ น.ส.รัชนกจะเข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล ทางพรรคไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเข้าไปต่อสู้คดีตั้งแต่ต้น แต่เป็นเรื่องของทนายความ เมื่อศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้วก็จะต้องยอมรับปฏิบัติตามนั้นและยังคงต้องให้นางสาวรัชนกได้ใช้สิทธิ์ในกระบวนการยุติธรรมอีกเต็มที่ในอีกสองศาลที่เหลือ
ส่วนท่าทีนางสาวรัชนกหลังได้รับฟังคำพิพากษานั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ได้มีความกังวลอะไร เนื่องจากกระบวนการยังไม่ถึงที่สุด