‘เศรษฐา’ คอมเม้นท์ประเด็นอุบัติเหตุรถทัวร์คว่ำที่ทัสะแก ทำคนเจ็บ-ตายเพียบ โยน ‘กรมการขนส่งทางบก’ พิจารณาจะเลิก-ไม่เลิกรถบัสสองชั้น หลังสังคมมองอันตรายและเป็นบ่อเกิดอุบัติเหตุ ด้าน ‘รมช.คมนาคม’ รุดเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ยืนยันประกันที่มีครอบคลุมทั้ผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต สั่ง บขส.-เอกชนเดินรถกวดขันตรวจสภาพรถ ปรับตรวจสมรรถภาพคนขับรถจากทุกๆ 3 ปี เป็นทุกปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 6 ธันวาคม 2566 จากกรณีอุบัติเหตุถทัวร์โดยสารตกถนนพลิกคว่ำชนต้นไม้ ที่บริเวณถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 331 -332 หมู่ที่ 7 ต.ห้วงยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขาล่องใต้ ใกล้ทางเข้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อวานนี้ (5 ธ.ค. 66)
@เลิกบัส 2 ชั้นให้ กรมขนส่ง พิจารณา
ล่าสุด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีนี้ว่า มอบหมายให้นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นตรงไหนอย่างไร
ส่วนข้อเสนอเรื่องการยกเลิกรถบัสสองชั้นนำมาใช้วิ่งรับส่งผู้โดยสาร เพราะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุนั้น นายกรัฐมนตรีมองว่า เป็นเรื่องของกรมขนส่งทางบก (ขบ.) ที่จะต้องพิจารณา ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่า ผู้ประกอบการก็มีการลงทุนไปจำนวนมาก ซึ่งปัญหาอุบัติเหตุอาจไม่ใช่เพราะรถบัสสองชั้น แต่อาจเป็นเรื่องของสภาพรถด้วย รวมถึงเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเรื่องการปฏิบัติตามกฎจราจร หลายอย่างประกอบกัน และทัศนวิสัยในการขับรถ
ด้านนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ รถโดยสารร่วมเอกชน ของ บริษัท ศรีสยาม เดินรถ จำกัด เสียหลักตกข้างทางบริเวณถนนเพชรเกษม กม.331 ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมได้เข้าเยี่ยมและส่งมอบกำลังใจให้ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทับสะแก และโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
@เจ็บ-ตายประกันครอบคลุม
โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยตามสิทธิ์ ซึ่งกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าประจำศูนย์ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกในการตรวจสอบการคุ้มครองของประกันภัย ให้กับผู้โดยสารที่ประสบอุบัติเหตุ ณ โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง
นอกจากนี้ได้ให้ ขบ. และ บขส. ร่วมกับทางสภาวิศวกร, สถาบันยานยนต์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ดำเนินการสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุ โดยทาง AIT จะส่งทีมสอบสวนอุบัติเหตุในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้กระทรวงคมนาคม มีเป้าหมายในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
การดำเนินการสอบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เป็นการรวบรวมสถิติ และอุบัติเหตุเคสสำคัญที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อเป็นข้อเสนอแนะ ในการออกมาตรการและนโยบายของกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะเป็นการถอดบทเรียน เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีกในอนาคต รวมทั้ง บขส. ได้เชิญ AIT เป็นที่ปรึกษา เพื่อประเมิน วิเคราะห์ ตรวจสอบ มาตรการเชิงปฏิบัติการ และความมั่นคงแข็งแรงของรถ Safety Audit ทั้งรถ บขส. และ รถร่วมบริการทั้งหมด
@จี้ บขส. กวดขันตรวจสภาพรถ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญในเรื่อง
ความปลอดภัย และตั้งเป้าลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน จึงฝากให้ บขส. และ ผู้ประกอบการรถร่วมทุกราย หมั่นตรวจเช็คความพร้อมของรถโดยสารอยู่เสมอ ก่อนนำมาให้บริการ, รถโดยสารทุกคันต้องมีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย เช่น เข็มขัดนิรภัย ถังดับเพลิง ทางออกฉุกเฉินและค้อนทุบกระจก ติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทาง (GPS) เป็นต้น และแนะนำให้มีการตรวจสุขภาพพนักงานขับรถทุกๆ 6 เดือน เพื่อประเมินความพร้อมและสมรรถนะทางร่างกายของพนักงานขับรถ และให้กรมขนส่งทางบก พิจารณาปรับการทดสอบสมรรถนะทางด้านการขับขี่ของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ จาก 3 ปี เป็น 1 ปี และให้เน้นย้ำให้ผู้ขับขี่รถโดยสารปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ดีหลังจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนเพิ่มเติม โดยจะประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือแนวทางในการออกมาตรการด้านความปลอดภัย ในการขับขี่บนท้องถนน และมีผลบังคับใช้ก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้
อ่านประกอบ
รถทัวร์สายใต้เสียหลัก ตกถนนชนต้นไม้ข้างทางทับสะแก ผู้โดยสารเสียชีวิต 16 ราย