ม.แม่ฟ้าหลวง ออกแถลงการณ์แจงปมฟ้อง ดร.เค็ง เรียกชดใช้ทุน 10 ล้านบาท ยันทำตามหลักเกณ์กฎหมาย-ระเบียบราชการ ชี้คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาศาลปกครองสูงสุด จึงไม่สามารถไกลเกลี่ยได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่เรื่องราว 'ดร.เค็ง' อาจารย์ระดับปริญญาเอก นักเรียนทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( ชื่อขณะนั้น ) และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่ต่อมาป่วยจิตเวช ส่งอีเมลยื่นลาออกจากมหาวิทยาลัย ไม่สามารถทำงานใช้ทุนได้จนถูกมหาวิทยาลัยฯ ฟ้องร้องให้ชดใช้ทุน 10 ล้านบาท สร้างความเดือดร้อนลำบากให้ตัวเองที่ยังมีอาการป่วยต่อเนื่อง รวมทั้งครอบครัวซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้ำประกันนั้น
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ออกแถลงการณ์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เรื่อง การยื่นฟ้องคดีกับอาจารย์เพื่อให้ชดใช้ทุนการศึกษา รายละเอียด ดังนี้
ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ยื่นฟ้อง ดร.เค็ง ซึ่งเป็นอาจารย์ที่เรียนจบในระดับปริญญาเอกที่ขอลาออกในขณะที่ยังไม่ครบเงื่อนไขการชดใช้ทุน โดยให้ชดใช้ ทุนการศึกษานับสิบล้านบาท ทั้งที่ ดร.เค็ง เจ็บป่วยด้วยโรคจิตเวช นั้น
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงขอชี้แจงในกรณีนี้ ดังนี้
1. ดร.เค็ง เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตำแหน่งอาจารย์ สังกัดสำนักวิชาการจัดการ ได้เริ่มปฏิบัติงานที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2548 และต่อมาได้รับทุนรัฐบาล จากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงให้ไปศึกษาในระดับปริญญาเอก ณ University of Kent ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2551
2. ดร.เค็ง ได้สำเร็จการศึกษาและกลับมาปฏิบัติงานที่มหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2556 และในระหว่างปฏิบัติงานได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2557 โดยให้มีผลเป็นการลาออกในวันที่ 1 กันยายน 2557 ซึ่งในการขอลาออกเป็นการแสดงเจตนาโดยสมัครใจของ ดร.เค็ง และเมื่อ ดร.เค็ง ยังคงแสดงเจตนาเดิมในการขอลาออกโดยได้รับทราบเงื่อนไขของการชดใช้ทุนแล้ว มหาวิทยาลัยจึงได้อนุญาตให้ลาออกตามความประสงค์ แต่ด้วยเงื่อนไขของสัญญาและระเบียบของกระทรวงการคลัง เมื่อ ดร.เค็ง ปฏิบัติงานเพื่อชดใช้ทุนการศึกษาไม่ครบถ้วน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัย จึงมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา เพื่อเรียกให้ชดใช้ทุนการศึกษา ของกระทรวงวิทย์ฯ จำนวน 630,207.46 บาท กับอีก 194,730 ปอนด์ และของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจำนวน 726,305.94 บาท
3. ตามเงื่อนไขของสัญญารับทุน และหลักเกณฑ์ปฏิบัติของกระทรวงการคลัง กำหนดให้สิทธิผู้รับทุนที่ไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินทุนตามสัญญาเมื่อเป็นบุคคลวิกลจริต จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ แต่ต้องแสดงหลักฐานทางการแพทย์จากโรงพยาบาลในสังกัดของรัฐ โดยให้แพทย์ผู้ทำการรักษาระบุว่าเหตุวิกลจริตและจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบดังกล่าว ท าให้ผู้ผิดสัญญาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ แต่ทั้งนี้ ในระหว่างปฏิบัติงานให้กับมหาวิทยาลัยจนกระทั่งยื่นหนังสือลาออก ดร.เค็ง ไม่เคยจัดส่งเอกสารหลักฐานทางการแพทย์ว่าไม่สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ให้กับมหาวิทยาลัยได้รับทราบเลย โดย ดร.เค็ง ได้ยื่นเอกสารทางการแพทย์ต่าง ๆ ในชั้นพิจารณาของศาลปกครองเชียงใหม่แต่ล่วงเลยระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในสัญญาไปแล้ว ศาลปกครองเชียงใหม่จึงได้พิจารณาและพิพากษาให้ ดร.เค็ง ชดใช้ทุนการศึกษาตามเงื่อนไขของสัญญา
4. ดร.เค็ง ได้ยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 แต่เมื่อคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด การไกล่เกลี่ยในชั้นศาลนี้ไม่อาจทำได้ มหาวิทยาลัยจึงไม่อาจดำเนินการใด ๆ ในขณะนี้ได้
5. มหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติต่อ ดร.เค็ง ด้วยเมตตาธรรมและคุณธรรมมาโดยตลอด โดยได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ ดร.เค็ง ได้รับโอกาสไปศึกษาวิชาการในต่างประเทศตามที่ ดร.เค็ง ตั้งใจ และขอยืนยันว่าในการพิจารณาเรื่องราวของ ดร.เค็ง มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการภายใต้ขั้นตอนและหลักเกณฑ์ของกฎหมาย และระเบียบของทางราชการ แต่อย่างไรก็ดีหากศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาพิพากษาเป็นประการใด มหาวิทยาลัยก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลทุกประการ