‘เศรษฐา’ ตอบคำถามสื่อ ปมพูดในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยวานนี้ (21 พ.ย.66) ประเด็นตั้งผู้กำกับ ยืนยันไม่มีอำนาจแทรกแซง ส่วนกรณี ‘ธนาธร’ พูดผูกมิตร ตอบกว้างๆว่าเน้นย้ำคำนี้อยู่แล้ว ส่วนกรณีจีนแห่เลิกไฟล์ทบินเที่ยวไทย ยอมรับมีจริง แต่ไม่ทั้งหมด ชี้ปมจีนเทาขอให้แยกจากฟรีวีซ่า
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีแและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีไปร่วมประชุม สส.ของพรรคเพื่อไทยวานนี้ (21 พ.ย.66) แล้วมีการจับประเด็นถึงการวิ่งเต้นโยกย้ายนายตำรวจระดับผู้กำกับ (ผกก.) ไม่ใช่เรื่องอะไร ยืนยันว่า ตนเองไม่มีอำนาจ และไม่เคยแทรกแซง ไม่เคยก้าวก่ายในการแต่งตั้งข้าราชการและข้าราชการตำรวจเลย เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่จะพิจารณาตามผลงาน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างที่ทราบประชาชน โดย สส. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน มีการมาพูดคุยกันเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดที่เรื้อรังมา แล้วอาจจะมีความไม่สบายใจกับเจ้าหน้าที่ จึงได้มีการพูดคุยกัน ยืนยันว่า สส.ไม่ได้มาขอ
“เราพูดเรื่องความ ไม่ได้พูดเรื่องคน ความคือมีปัญหาในพื้นที่ เราเองก็มาพูดกันถึงปัญหาในพื้นที่มากกว่า เอาเรื่องความเป็นหลัก ผมยืนยันอีกครั้งว่าผมไม่ได้ไปก้าวก่ายหรือไปสั่งการกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการแต่งตั้งผู้กำกับ และความจริงแล้วไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจของผมด้วย” นายเศรษฐากล่าว
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีเคยพูดเรื่องนโยบายว่าไม่อยากให้มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง รวมทั้งการใช้เส้นสาย ต้องกำชับ สส.ในพื้นที่อย่างไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า สส.ทราบหน้าที่ของตนเองดีอยู่แล้ว ไม่ได้มีประเด็นตรงนี้
ถามต่อว่า ที่นายกรัฐมนตรี บอกว่ามีการขอมาเยอะ เนื่องจากมีทั้งคนผิดหวังและคนที่สมหวังหมายความว่าอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่การขอมา คนสมหวังคนผิดหวัง หมายความว่ามีคนบอกว่าเจ้าหน้าที่อาจจะทำงานไม่ดีตรงนี้ ซึ่งตนเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าสมมุติถ้าเจ้าหน้าที่ทำงานไม่ดี ก็ไม่สามารถไปสั่งย้ายได้อยู่ดี ก็ทำได้เพียงไปบอกว่าในพื้นที่ ในส่วนนี้ ในเขตนี้ มีปัญหาเรื่องยาเสพติดเยอะช่วยดูแลด้วย และถ้าเกิดว่ามีการกำกับดูแลไปแล้ว แล้วยังยืนยันว่าบุคคลที่อยู่ในพื้นที่เป็นบุคคลที่เหมาะสมอยู่ก็ต้องทำงานต่อไป ซึ่งขอย้ำว่าเราพูดเรื่องความ ไม่ใช่พูดเรื่องคน และยืนยันมาตลอด
ผู้สื่อข่าวถามว่าประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นทางพรรคก้าวไกล ตีความว่าอาจจะผิดรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 185 นายกรัฐมนตรี จะชี้แจงอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า “ยืนยันครับว่าผมไม่ได้ไปก้าวก่ายไม่เคยไปสั่งการและทาง สส.ก็ไม่เคยมาขอ”
@เน้นคำว่ามิตร หลังธนาธรทอดสะพานเป็นมิตร ‘เพื่อไทย’
ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอว่า นายธนาธร กับพรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นมิตรกัน นายกรัฐมนตรีตอบว่าว่า ส่วนตัวเน้นคำว่าเป็นมิตร เน้นเรื่องความสมัครสมานสามัคคี เน้นเรื่องการสื่อสารที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่เป็นการด้อยค่า ใช้คำพูดใช้คำแนะนำในเชิงสร้างสรรค์ จึงพยายามจำคำว่าเป็นมิตร
@รับจีนยกเลิกไฟล์ท แต่ไม่ทั้งหมด
สื่อมวลชนถามอีก ถึงกรณีมีรายงานข่าวว่า มีสายการบินจีนจำนวนหนึ่งที่มีแผนจะให้บริการเส้นทางจากหลายเมืองของจีนของตารางการบิน (slot) สู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจองใช้บริการภาคพื้นของบริษัทการบินไทย แต่สุดท้ายต้องยกเลิกเนื่องจากไม่มีดีมานของผู้โดยสารที่เพียงพอ จะส่งผลต่อกรณีที่เปิดฟรีวีซ่าให้คนจีนหรือไม่ นายเศรษฐาระบุว่า มันไม่ได้ยกเลิกทั้งหมด พอมีฟรีวีซ่าก็อาจจะมีการจองเข้ามาเยอะ แต่นโยบายภายในประเทศของจีนเอง ก็สนับสนุนให้มีการท่องเที่ยวภายในประเทศเยอะ สภาพเศรษฐกิจเองก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิดไว้ ฉะนั้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่คิดว่าอาจจะเข้ามาเยอะมาก ก็ไม่ได้เข้ามาเยอะขนาดนั้น แต่อย่างไรก็ตามหากไม่มีนโยบายนี้ก็จะยิ่งแย่ไปกันใหญ่
นายเศรษฐา กล่าวว่า ทั้งนี้จากที่ตนได้เจอกับ Booking.com ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Agoda.com ที่เป็นเว็บออนไลน์ทำเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ ก็คอนเฟิร์มชัดเจนว่ามีนักท่องเที่ยวจีน เข้ามาทำธุรกรรมประมาณ 3 เท่า ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ได้พูดไปในวงหารือหนึ่งว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นประเด็นหนึ่ง แต่อีกประเด็นหนึ่งที่เราให้ความสำคัญมากกว่า คือจำนวนวันที่อยู่กับการใช้จ่ายต่อคน ซึ่งหลังจากสถานการณ์โควิด การเดินทางมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมาก ฉะนั้น จีนเขามาถึงแล้วการจับจ่ายใช้สอยจะน้อยลง ตรงนี้ก็เข้าใจจึงเป็นที่มาที่ไปในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวด้วยมาตรการต่างๆผ่านการท่องเที่ยวด้วยการเปิดฟรีวีซ่าให้ชาวไต้หวันและชาวอินเดีย และกำลังพิจารณาอีกหลายมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
@จีนเทา คนละส่วนกับมาตรการฟรีวีซ่า
เมื่อถามว่า รัฐบาลเปิดฟรีวีซ่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ดูเหมือนจะมีกลุ่มจีนสีเทาเข้ามาแสวงธุรกิจโดยมีกระบวนการขอทาน นายกรัฐมนตรีได้ติดตามและสั่งการในเรื่องนี้หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ก็ติดตามอยู่ จีนสีเทาก็มีอยู่มานานแล้วอาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องของฟรีวีซ่าหรือเปล่า เราก็ต้องบริหารจัดการกันต่อไป ซึ่งเรื่องของคนจีนขอทานก็ไปเช็คดูแล้วว่าเข้ามาก่อน ตรงนี้ก็มีการจัดการไป เราก็ต้องดำเนินการตามกฏหมายไป ซึ่งก็มีขั้นตอนการเข้ามาคือการตรวจคนเข้าเมือง