‘เจ้าสัวธนินท์’ เชียร์นโยบายดิจิทัลวอลเลต เชื่อ ‘เศรษฐา’ นำพาประเทศชาติรุ่งเรือง ชี้นโยบายพักหนี้ก็ดีงาม ก่อนชม ‘บิ๊กตู่’ รักษาวินัยการเงินการคลังดี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 41 นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “90 ปี หอการค้าไทยกับการพัฒนาของเศรษฐกิจไทย”
@คนรุ่นใหม่ตั้งรับสิ่งใหม่ รุ่นเก่าต้องสนับสนุน
นายธนินท์ เริ่มต้นว่า วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไป คนรุ่นเก่าไม่ใช่ไม่มีความหมาย มีความหมายอย่างยิ่ง แต่ทุกอย่างต้องสนับสนุนคนรุ่นใหม่ทำเรื่องใหม่ ต้องมีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้นที่คาดไม่ถึง เช่น ระบบโดรนที่ไม่ต้องใช้คนขับ คล้ายๆเฮลิคอปเตอร์ แต่ปลอดภัยและลงทุนถูกกว่า รัฐบาลอย่างญี่ปุ่น ก็กำลังสนใจที่จะเอาคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะผู้ประกอบการสตาร์ทอัพมาขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน 10 ประเทศ โดยประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสมแล้ว
และต่อไปประเทศจีนจะมีสตาร์ทอัพอีกเยอะ เพราะคนรุ่นใหม่กำลังเปลี่ยนแปลงโลก ข้อมูลของโลกโปร่งใสและมีมหาศาล ทำให้เกิดการเรียนรู้ ข้อมูลคือสิ่งที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ และต่อไปจะเป็นปัจจัยที่ยิ่งใหญ่มาก เมื่อมีข้อมูลแล้วก็ยังไม่พอ เพราะต้องมีระบบ AI วิเคราะห์ข้อมูลให้ด้วย เพราะข้อมูลมีมหาศาล คนอ่านไม่ทัน เรียนรู้ไม่ทัน ทุกอย่างต้องเร็ว
@’ประยุทธ์’ รักษาวินัยการเงินดี
ประธานอาวุโสเครือซี.พี.กล่าวต่อว่า ต้องขอชมเชยรัฐบาลที่เพิ่งผ่านไปคือ รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเรื่องการเงินการคลังของประเทศ ถือว่าทำได้ดี มีวินัยทางการเงินเป็นอย่างดีที่สามารถระบบการเงินยังอยู่ระดับบนๆของประเทศ แถมสามารถรักษา GDP ต่อหนี้ของประเทศอยู่ที่ 61% ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกตัวเลขหนี้สาธารณะกว่า 100% แล้ว
แต่วันนี้เศรษฐกิจของโลกไม่ปกติ ถ้ารักษาวินัยดีเกินไป ก็เกิดวิกฤติเศรษฐกิจได้ เพราะโลกนี้กำลังเข้าสู่วิกฤติเศรษฐกิจ ยกเว้นประเทศสหรัฐอเมริกา พออเมริกาขึ้นดอกเบี้ย เงินก็ไหลกลับเข้าประเทศสหรัฐฯมากขึ้น แม้จะมีหนี้ต่อ GDP เกิน 100% ไปแล้วก็ตาม แต่คนส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นการเงินของประเทศสหรัฐฯ
@เห็นด้วย พักหนี้เกษตรกร
ส่วนรัฐบาลชุดใหม่ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสินเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เชื่อมั่นว่า เข้ามาในเวลาที่ถูกต้อง ที่จะมาแก้เรื่องเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรี ผลงานที่ผ่านมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับที่ 1 และมีการออกหุ้นกู้ในอัตรา 4% ต่อปี ก็แสดงถึงว่า นายเศรษฐาไม่ใช่นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเดียว แต่เป็นนักบริหารการเงินที่ยอดเยี่ยมด้วย ดังนั้น จึงมีความมั่นใจที่ออกมาตรการมา ก็คิดว่าทุกอย่างถูกต้อง
“วันนี้เศรษฐกิจไม่ปกติ การกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่ใช้วิธีปกติมากระตุ้น มันไม่ใช่ วันนี้มันเป็นวิกฤติเศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่อย่างที่บอกไป รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ก้เจอโควิดเข้าไป 3 ปี ทำผลงานได้ก็ดีแล้ว แต่วันนี้โลกเปิดแล้ว มาตรการพักหนี้เกษตรกร ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ประเทศไหนเจริญรุ่งเรืองได้โดยไม่ปกป้องราคาสินค้าเกษตรให้สูง สินค้าเกษตรคือน้ำมันบนดินของไทย เรามองว่าสินค้าเกษตรไม่มีค่า ลองดูสิครับ สินค้าเกษตรงอกจากแผ่นดินไทย ถ้าต่อยอดเพิ่มมูลค่าได้อีก รายได้ของประเทศไทยจะสูงขึ้น เงินเข้าประเทศมากขึ้น และเป็นสิ่งที่ไม่มีวันหมด ปลูกใหม่ก็ได้อีกแล้วครับ ไม่เหมือนน้ำมันสูบมาใช้แล้วหมดเลย” นายธนินท์กล่าว
@เห็นด้วยดิจิทัลวอลเลต กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายธนินท์ กล่าวต่อว่า ปัญหาความยากจน ส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาคเกษตรกร เกิดปัญหาหนี้นอกระบบตามมา จึงอยากฝากนักธุรกิจและหอการค้าไทยช่วยกัน ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ทั้งนักธุรกิจ นักการเมือง ราชการ ต้องมองประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก แล้วค่อยมาพูดเรื่องตัวเอง ประเทศชาติต้องมาก่อน ประชาชนต้องมาก่อน บริษัทมาทีหลัง ถ้าประเทศอยู่ไม่ได้ ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ แล้วพวกเรานักธุรกิจจะขายสินค้าให้ใคร?
ส่วนที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะทำนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทผ่านระบบดิจิทัลวอลเลต ส่วนตัวเห็นด้วยและสนับสนุน ซึ่งนักธุรกิจต้องช่วยกันพูด เรื่องนี้ไม่ใช่การช่วยคนยากจน แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องให้เข้าใจตรงกัน ส่วนวินัยทางการเงินการคลังยังไม่เสียหาย เพียงแต่หลังจากกระตุ้นแล้วต้องแผนที่ 2 ตามมา แผนในระยะกลางและระยะยาว และเชื่อมั่นว่า ถ้านักธุรกิจ ข้าราชการ และนักการเมืองมองประเทศชาติเป็นหลักและเอาตัวเองเป็นที่ 3 เชื่อมากว่า ประเทศไทยภายใต้การนำของรัฐบาลชุดใหม่ต้องเจริญรุ่งเรือง
ช่วงท้าย ประธานอาวุโสเครือ ซี.พี. ฝากการบ้านถึงรัฐบาลว่า มีความกังวลที่ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยเร็วไป จึงขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญ เนื่องจากอาจจะสร้างคนไม่ทัน พร้อมกันนี้นายธนินท์ได้ชี้ให้เห็นว่าแม้ปัจจุบันโลกจะเข้าสู่ยุค 5.0 หรือธุรกิจตัวเบา ที่เน้นออนไลน์เป็นหลัก แต่แท้จริงแล้วธุรกิจการผลิตยังมีความสำคัญ การผลิตจะต้องปรับตัว ปรับต้นทุนให้ถูกลง และต้องทำให้ไฮเทคมากขึ้น เพราะอย่างไรออนไลน์ก็ยังต้องการผลิตในที่สุดนั่นเอง
ที่มาภาพ: เว็บไซต์ We are CP