ดีเอสไอแสดงหมายค้นห้องเย็น พบของกลาง ตับหมู กว่า 70,000 กิโลกรัม ทำรัฐสูญเสียเงินภาษีกว่า 5,000 ล้านบาท จากการนำเข้าซากหมูเถื่อน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2566 พันตำรวจตรีณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษเฉพาะด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 59/2566 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าแสดงหมายค้นศาลอาญา ที่ 1367/2566 โดยรายละเอียดของหมายระบุข้อความว่า
ให้เข้าตรวจค้นที่ ที่บริษัท แอล อาร์ ห้องเย็น จำกัด เลขที่ 168/8 หมู่ 3 ถนนธรรมคุณากร ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อพบและยึดสิ่งของ และทรัพย์สินอื่นๆ เช่น ซากสัตว์ต่างๆ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรับขนสินค้าระหว่างประเทศ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ สมุดบัญชีธนาคาร ใบถอนเงิน-ฝากเงิน และเอกสาร การโอนเงินระหว่างประเทศ เป็นต้น ที่ใช้ในการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติสุลกากร พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา ซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือได้ใช้ หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิดจึงออกหมายคันนี้ให้ พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม นายเมธีวัฒน์ คำเสือ ร้อยตำรวจเอกชาญณรงค์ ทับสาร และนายเกรียงศักดิ์ สุวรรณศรี พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมพวก ปรากฏตามบัญชี รายชื่อที่แนบท้ายนี้ มีอำนาจคันสถานที่ บริษัทข้างต้นได้ในวันที่ 9 เดือน พฤศจิกายน พุทธศักราช 2566 เมื่อค้นได้ตามหมายนี้แล้วให้ส่ง ของกลาง พร้อมบันทึกการค้นและบัญชีสิ่งของ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ผลจากการตรวจค้นปรากฏว่า พบตับหมู น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 73,340 กิโลกรัม มูลค่า กว่า 7 ล้านบาท จึงได้ทำรายงานผลการตรวจค้นต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา หลังการตรวจค้นพบของกลางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้รายงานต่อ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ กำกับดูแลบริหารกรมปศุสัตว์ ลงพื้นที่ตรวจสอบของกลางด้วย
พันตำรวจตรีณฐพล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การสืบสวนสอบสวนของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 59/2566 มีการนำเข้าซากหมูรวมชิ้นส่วนหมู จำนวน 2,385 ตู้ ที่มีการสำแดงเท็จหากมีการสำแดงถูกต้องจะต้องเสียภาษีให้ กับรัฐจำนวน 2.5 ล้านบาท ต่อ 1 ตู้ ซึ่งหากคำนวณค่าเสียหายต่อรัฐคิดเป็นเงินภาษี เป็นเงินสูงถึง 5,962.5 ล้านบาท และบางประเทศที่เป็นต้นทางการนำเข้าก็ไม่สามารถที่จะนำเข้ามาได้
“การนำเข้าซากหมูและชิ้นส่วนหมู จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนน่าเชื่อว่า จะต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจ และ มีการจ่ายเงินใต้โต๊ะกันเป็นวงเงินสูงถึง นับ พันล้านบาท หากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 59/2566 พบหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าการนำเข้าหมูในครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องชัดเจน จะต้องส่งสำนวนการสอบสวนแก่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ต่อไป” พันตำรวจตรีณฐพล กล่าว