มติ ก.ตร.ตั้ง 38 ข้าราชการตำรวจ ให้ พล.ต.ท.ธนา-สราวุฒิ นั่งรอง ผบ.ตร. ไกรบุญเป็นจเรตำรวจแห่งชาติ ให้ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก สตช.ไปประสานสำนักนายกฯ-มท.-บิ๊กต่อยันขั้นตอนโปร่งใส ยึดหลักอาวุโส
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 16 ต.ค.มีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 11/2566 โดยมีนายเศรษฐ ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งนายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ ผบช. รวมทั้งหมด 38 ตำแหน่ง มีรายละเอียดดังนี้
1.พลตำรวจโทไกรบุญ ทรวดทรง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น จเรตำรวจแห่งชาติ
2.พลตำรวจโทธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ น
3.พลตำรวจโทสราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
4.พลตำรวจโทณพวัฒน์ อารยางกูร จเรตำรวจ (สบ 8)เป็นรองจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ 9)
5.พลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 7 เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
6.พลตำรวจโทภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
7.พลตำรวจโทโสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
8.พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรีผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 6 เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
9.พลตำรวจโทอิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บัญชาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
10.พลตำรวจโทคีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บัญชาการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่ที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย) เป็นผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
11.พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี เป็นผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ น
12.พลตำรวจโททวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เป็นนายแพทย์ใหญ่ (สบ 8)
13.พลตำรวจโทธนพล ศรีโสภา จเรตำรวจ (สบ 8) เป็นจเรตำรวจ (สบ 8) (หัวหน้าจเรตำรวจ)
14.พลตำรวจโทนัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ เป็นผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 7
15.พลตำรวจโท สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 2
16.พลตำรวจโทสรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เป็นผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 4
17.พลตำรวจโทอาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่นายตำรวจประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติ) เป็นผู้บัญชาการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่นายตำรวจประสานงานสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย)
18.พลตำรวจโทอิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 2 เป็นผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
19.พลตำรวจโท อุดร ยอมเจริญ ผู้บัญชาการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่นายตำรวจประสานงานสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย) เป็นผู้บัญชาการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่ที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย)
20.พลตำรวจตรี กฤตธาพล ยี่สาคร รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 5 เป็นผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 5
21.พลตำรวจตรีกฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผู้บัญชาการศึกษา เป็นผู้บัญชาการสำนักงานตรวจสอบภายใน
22.พลตำรวจตรีกิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 1 ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 6
23.พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 1
24.พลตำรวจตรี ฐากูร นัทธีศรี รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 3 เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3
25.พลตำรวจตรีนิตินันท์ เพชรบรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นจเรตำรวจ (สบ 8)
26.พลตำรวจตรี ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 9 เป็นผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 9
27.พลตำรวจตรีพฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 5 เป็นผู้บัญชาการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ทำหน้าที่นายตำรวจประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติ) น
28.พลตำรวจตรีพิสิฐ ตันประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นผู้บัญชาการ สำนักงานงบประมาณและการเงิน
29.พลตำรวจตรี ไพบูลย์ เจียมอนุกูลกิจ รองนายแพทย์ใหญ่ (สบ 7) นายแพทย์ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ
30.พลตำรวจตรี ยงเกียรติ มนปราณีต รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
31.พลตำรวจตรี วัชรินทร์ พิภพมงคล นายแพทย์ (สบ 7) โรงพยาบาลตำรวจ เป็นนายแพทย์ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ
32.พลตำรวจตรี วัฒนา ยี่จีน รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 7เป็นผู้บัญชาการศึกษา
33.พลตำรวจตรีศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 8 เป็นผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
34.พลตำรวจตรี ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นจเรตำรวจ (สบ 8)
35.พลตำรวจตรี สยาม บุญสม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นจเรตำรวจ (สบ 8)
36.พลตำรวจตรี สิทธิชัย โล่กันภัย รองผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 7 เป็นผู้บัญชาการ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ
37.พลตำรวจตรี สุนทร เฉลิมเกียรติ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นจเรตำรวจ (สบ 8)
38.พลตำรวจตรี อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นผู้บัญชาการ สำนักงานกฎหมายและคดี
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่าหลังจากการประชุม ก.ตร.เสร็จสิ้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 11/2566 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นไปตามที่กฏหมาย โดยยึดหลักอาวุโสความรู้ความสามารถควบคู่กัน โดยในที่ประชุม ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิมีการอธิบายถึงคุณสมบัติบางนาย ซึ่งก็ได้มีการชี้แจงและเตรียมนำมาปรับปรุงพิจารณาเพื่อให้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น ส่วนบัญชีรายชื่อที่ได้รับการแต่งตั้งยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อยจากบอร์ดกลั่นกรองเมื่อวันที่ 15 ก.ย.66 แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าใครไปตำแหน่งไหน ต้องรอการโปรดเกล้าฯก่อน โดยในวันนี้( 16 ต.ค.) ตนเองจะลงนามในคำสั่งให้ผู้ที่มีรายชื่อทั้งหมดไปรักษาราชการแทนในตำแหน่งเพื่อเตรียมพิจารณารายชื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รองผบช.-ผบก.(นายพลเล็ก) จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจหรือ ก.ตร.ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ พร้อมกับยืนยันว่าการแต่งตั้งวาระประจำปี 66 เป็นการแต่งตั้งตาม พ.ร.บ.ตำรวจใหม่ฯ ที่มีการพิจารณาจากระดับล่างขึ้นไป ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ระดับ ตร.จะลงไป
เมื่อถามว่า รายชื่อที่ถูกเสนอในบอร์ดกลั่นกรองเมื่อครั้งวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้นมีการเเก้ไขหรือปรับปรุงอะไรหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่ามีการนำเอามาพิจารณาร่วมไม่ได้มีการเปลี่ยนเเปลงรายชื่อเยอะโดยการพิจารณานั้นจะต้องรอการโปรดเกล้าฯก่อนตอนนี้นั้นเป็นแค่การคัดเลือกกันผ่านบอร์ดพิจารณาเท่านั้น รายชื่อของบุคคลที่ได้รับการพิจารณาในวันนี้นั้นจะมีคำสั่งให้ไปดำเนินการรักษาการเลย เพื่อที่จะดำเนินการเรื่องของ’นายพลเล็ก’ต่อเพื่อที่จะให้รักษาการเหล่านั้นนั่งหัวโต๊ะในการพิจารณาระดับนานพลไม่ใช่จากการพิจารณาของ ตร. ลงไปเหมือนเมื่อก่อน แต่ถ้าอย่างไรการเเต่งตั้งระดับนายพลเล็กจะเสร็จสิ้นในวันที่ 31 ตุลาคม ที่จะถึงนนี้นั้นเเต่ยังจะต้องรอการโปรดเกล้าถึงจะครบองค์ประกอบทั้งหมด
ส่วนกระแสข่าวที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.จะไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหรือ ปปส.นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาแต่หากมีคำสั่งให้ไปดำรงตำแหน่ง ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะมีการพิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งทดแทน คาดว่าจะเป็นช่วงเดือนเมษายน 2567นี้
ส่วนกรณีการยุบตำรวจรถไฟเป็นไปตาม พ.ร.บ.ตำรวจใหม่ฯ เบื้องต้นทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวน ( บช.ก.) ได้ขออนุมัติตั้งหน่วยงานใหม่เป็นกองบังคับการสนับสนุน อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างของหน่วยงานให้สอดคล้องกับภาพรวมของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนประกาศในราชกฤษฎีกาต่อไป