‘ก้าวไกล’ แถลงลงโทษสมาชิกพรรค หลังถูกร้องเรียนล่วงละเมิดทางเพศ คาดโทษ สส.กทม.ซ้อมผู้หญิง ส่วนอดีตผู้สมัคร สส.ชัยภูมิขับออกจากพรรค ส่วนกรณีล่าสุด สส.ปราจีนบุรี กำลังสอบสวน ก่อนเผยมีอีก 1 เคสละเมิดทางเพศโดย สส. ก่อนล้อมคอกด้วย 3 มาตรการ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 12 ตุลาคม 2566 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมการวินัยพรรค แถลงข่าวความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี สส.พรรคก้าวไกล ถูกกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ
โดยนายพริษฐ์ระบุว่า ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ต้องขอเริ่มต้นโดยการยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ว่าเหตุผลที่มายืนอยู่ตรงหน้าทุกคนในวันนี้ เป็นเพราะพรรคก้าวไกล กำลังมีปัญหาเรื่องการคุกคามและความรุนแรงทางเพศ ปัญหาเรื่องการคุกคามทางเพศเป็นปัญหาใหญ่ในสังคม ที่กระทบความปลอดภัยของประชาชนหลายคน
ในฐานะพรรคการเมืองที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระดับประเทศ
เมื่อปัญหาดังกล่าวกลับเกิดขึ้นจากบุคลากรภายในองค์กรเอง สิ่งที่พรรคเราต้องทำให้ได้ คือการยอมรับปัญหา เผชิญหน้ากับปัญหา และหาความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย โดยไม่สร้างวัฒนธรรมในการปกปิดเรื่องดังกล่าวหรือปกป้องคนในองค์กรที่กระทำผิด
“ผมเข้าใจว่าวันนี้ สื่อมวลชนหลายคนอาจมีคำถามเกี่ยวกับกรณีล่าสุดที่ปรากฎในข่าว ที่เป็นข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศของ สส. ปราจีนบุรี แต่วันนี้ ตนขออนุญาตแถลงถึงภาพรวมทั้งหมดของปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางของพรรคในการแก้ไขปัญหา ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กรณีของ สส. ปราจีนบุรี โดยขอแบ่งเนื้อหาการแถลงออกเป็น 3 ส่วน” นายพริษฐ์ระบุ
โฆษกพรรคก้าวไกลอธิบายต่อว่า ส่วนที่หนึ่ง บทสรุปของข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ ที่ได้ข้อสรุปจากคณะกรรมการบริหารพรรค ไปแล้ว 2 กรณี
ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ทางพรรคได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมคุกคามทางเพศโดยสมาชิกพรรค ซึ่งคณะกรรมการวินัยของพรรคได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงทุกฝ่าย และกรรมการบริหารพรรคได้มีมติลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว ใน 2 กรณีดังต่อไปนี้
@คาดโทษ สส.ทุบตีผู้หญิง
กรณีที่ 1 ข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ความรุนแรงโดย นายสิริน สงวนสิน สส. กทม. ทางคณะกรรมการบริหารพรรค ค้นพบว่า นายสิริน สงวนสิน ได้ทะเลาะวิวาทกับผู้เสียหาย และได้กระทำความรุนแรงต่อผู้เสียหายจริง จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บบริเวณร่างกาย รวมไปถึงมีการทำลายทรัพย์สิน (โทรศัพท์มือถือ) และใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมต่อผู้เสียหาย
ทางพรรคเห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่ขัดต่ออุดมการณ์พรรค และเข้าข่ายการกระทำผิดวินัยพรรคอย่างร้ายแรง จึงได้มีมติให้ลงโทษ นายสิริน สงวนสิน 2 ประการ (1) ตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกพรรค โดยตัดสิทธิไม่ให้ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรคทันที เช่น ตำแหน่งที่มีอำนาจบริหารทุกระดับ หรือตำแหน่งประธาน กมธ. ที่เป็นสัดส่วนของพรรคในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นโทษที่หนักเป็นอันดับ 2 รองลองมาจากการขับออกจากสมาชิกภาพ (2) กำหนดคาดโทษไว้ว่า หากมีเหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่ นายสิริน กระทำผิดวินัยร้ายแรงอีกครั้งในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่เป็น ส.ส. ทางพรรคจะยกระดับโทษเป็นการขับออกจากสมาชิกภาพ (อ่านประกอบ: ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กขอโทษ ทำร้ายหญิงสาว พร้อมรับผลทาง กม.-การตรวจสอบจากพรรค)
สิริน สงวนสิน ส.ส. กทม.(พื้นที่ ทวีวัฒนา-ตลิ่งชัน)
@ขับอดีตผู้สมัคร สส. พ้นพรรค
กรณีที่ 2 ข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศโดย นายเกรียงไกร จันกกผึ้ง อดีตผู้สมัคร ส.ส. ชัยภูมิ ทางคณะกรรมการบริหาร พรรค ค้นพบว่า นายเกรียงไกร จันกกผึ้ง ได้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เสียหายจริงตามข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นการละเมิดหลักเรื่องความยินยอมและสิทธิในเนื้อตัวและร่างกายของผู้เสียหายอย่างชัดเจน
ทางพรรคเห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่ขัดต่ออุดมการณ์พรรคอย่างชัดเจน และถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัยพรรคอย่างร้ายแรง ตรงตามข้อบังคับพรรคที่ระบุถึงการกระทำผิดเรื่องการล่วงเกินทางเพศอย่างชัดเจน จึงได้มีมติให้ลงโทษ นายเกรียงไกร จันกกผึ้ง โดยการขับออกจากสมาชิกภาพทันที
นายพริษฐ์กล่าวว่า สำหรับผู้เสียหายจากความผิดใน 2 กรณีนี้ พรรคก้าวไกลต้องขอโทษทั้ง 2 ท่าน ด้วยความเข้าใจดีว่า แม้คำขอโทษจะไม่เพียงพอต่อการย้อนคืนความเสียหายที่ได้เกิดขึ้นต่อทั้งร่างกายและสภาพจิตใจของทั้ง 2 ท่านได้ แต่เราหวังว่าอย่างน้อยทั้ง 2 ท่าน จะได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการตรวจสอบของพรรคในเหตุการณ์เลวร้ายที่ก่อขึ้นโดยสมาชิกพรรค
เกรียงไกร จันกกผึ้ง อดีตผู้สมัคร ส.ส. ชัยภูมิ
@สส.ปราจีนฯ คุกคามทางเพศ อยู่ระหว่างตรวจสอบ
ส่วนที่สอง สถานะและความคืบหน้าของข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ ที่ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนโดย คณะกรรมการวินัยพรรค 2 กรณี
กรณีที่ 1 (ซึ่งปรากฎในสื่อสาธารณะ) ข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศโดย นายวุฒิพงษ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี หลังจากทางพรรคได้รับคำร้องจากผู้ร้องเรียน ทางพรรคได้ริเริ่มกระบวนการสอบข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการวินัยพรรคเมื่อเดือน ส.ค. 2566 โดยได้เชิญแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมตลอดเดือนกันยายน
ทางประธาน คณะกรรมการวินัยพรรค ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวาน (11 ต.ค.66) ว่ายอมรับว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวมีมูล และทางพรรคเข้าใจว่าสังคมคงได้รับรู้และพิจารณาได้จากข้อเท็จจริงบางส่วนเกี่ยวกับข้อกล่าวหา ที่ปรากฎออกไปต่อสาธารณะ
พรรคยืนยันว่าเราต้องการให้ข้อกล่าวหานี้มีข้อยุติโดยเร็วที่สุด โดย ณ เวลานี้ มีข้อเท็จจริงเป็นจำนวนมาก และคณะกรรมการวินัยพรรคยังมีความจำเป็นต้องสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากทุกฝ่ายให้ครบถ้วน เพื่อหาข้อสรุปทั้งหมด ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่ข้อสรุปว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นความผิดหรือไม่ แต่รวมถึงข้อสรุปว่า หากผิด การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดที่มีความร้ายแรงระดับไหน เพื่อให้ กก.บห. พรรคได้ทำการลงโทษอย่างได้สัดส่วนกับฐานความผิด และคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย
กระบวนการสอบข้อเท็จจริงและการวินิจฉัยจะได้ข้อสรุปภายในเดือนตุลาคมนี้ และพรรคจะสื่อสารผลสรุปต่อสาธารณะโดยทันทีอย่างเปิดเผย พร้อมกับตอบทุกข้อสงสัยที่มีเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
@พบ สส.ละเมิดทางเพศอีก
กรณีที่ 2 (ซึ่งไม่ปรากฏในสื่อสาธารณะ) ข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศโดย สส. อีก 1 คน
สำหรับกรณีนี้ ทางพรรคได้ทราบข้อมูลว่าได้เกิดเหตุการณ์ที่อาจเข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศโดยสมาชิกพรรค ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง สส. ของพรรคก้าวไกล แม้ว่าทางพรรคยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนโดยตรงจากบุคคลซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย ทว่าตั้งแต่ทราบเรื่อง ทาง คกก. วินัย ของพรรคได้เร่งติดต่อไปยังบุคคลดังกล่าว โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรอความพร้อมของบุคคลดังกล่าว ในการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฎ
สำหรับทั้ง 2 กรณีนี้ ทางพรรคยืนยันว่าเราจะทำเต็มที่ในการหาข้อสรุปโดยเร็ว และหากได้ข้อสรุปว่าเป็นความผิด ทางพรรคยืนยันว่าเราจะไม่อดทนต่อการกระทำผิดทางเพศ รวมถึงการใช้อำนาจโดยมิชอบ การคอร์รัปชั่น และการฉ้อฉลต่างๆ โดยจะดำเนินการลงโทษโดยไม่สนต่อผลกระทบทางการเมืองที่ตามมา เพราะ สส. ไม่ใช่เพียงจำนวนที่เราต้องการ แต่คือผู้แทนราษฎรแบบไหนที่เราอยากเห็น
@ล้อมคอก 3 มาตรการคุมเรื่องเพศ
ส่วนที่สาม แนวทางการปรับปรุงการทำงานของพรรคหลังจากนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการคุกคามทางเพศในอนาคต
แม้ทางพรรคได้มีการอบรมบุคลากรของพรรคมาอย่างต่อเนื่องเรื่องการกระทำที่เข้าข่ายการคุกคามทางเพศ และแม้ทางพรรคจะพยายามออกแบบกระบวนการสอบสวนที่คำนึงถึงสภาพจิตใจของผู้ถูกกระทำ แต่การที่ตนต้องมาแถลงเรื่องนี้ในวันนี้ ก็เป็นการบ่งบอกที่ชัดเจน ว่าเรายังทำได้ดีไม่พอ
หลังจากการหารือกันภายในมาเป็นระยะ ทางพรรคขอให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะดำเนินการปรับปรุงตนเองในการป้องกันและรับมือกับปัญหาการคุกคามทางเพศ ผ่านมาตรการดังต่อไปนี้
(1) ทางพรรคจะปรับปรุงการทำงานของคณะกรรมการวินัยพรรค ผ่านการปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการให้มีสัดส่วนของผู้เชี่ยวชาญภายนอก ที่ไม่ได้เป็น สส. ของพรรค และไม่ใช่เพศชาย เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเพิ่มทั้งประสิทธิภาพในการดำเนินงานของคณะกรรมการ รวมถึงเพิ่มกลไกตรวจสอบไม่ให้จำกัดอยู่เพียงการตรวจสอบโดยบุคลากรภายในพรรค
(2) ทางพรรคจะทบทวนและพิจารณาปรับปรุงกระบวนการสอบสวนตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความล่าช้าในการพิจารณาหรือดำเนินการใดๆ ที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความจำเป็นในการแสวงหาข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย
(3) ทางพรรคจะเพิ่มความเข้มข้นของการอบรมบุคลากรของพรรคเรื่องการเคารพความเสมอภาคทางเพศและสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย โดยจะขยายทั้งจำนวนผู้เข้าร่วมให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนมากขึ้น เพิ่มความถี่และรูปแบบของการอบรม และเพิ่มความละเอียดของเนื้อหาและหลักสูตรที่จำเป็นต่อการสร้างความเข้าใจที่ผ่านคำปรึกษาของผู้เชี่ยวชาญภายนอก รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการคัดกรองบุคลากรให้คำนึงถึงความสำคัญของเรื่องดังกล่าวมากขึ้นและไม่น้อยไปกว่าความสามารถในการทำงาน
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ขอทิ้งท้ายด้วยการย้ำ ว่าสาเหตุที่ตนมายืนอยู่ตรงนี้ เพื่อมายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าพรรคเรามีปัญหาเรื่องการคุกคามทางเพศ การคุกคามทางเพศ ไม่ว่าในรูปแบบใดหรือไม่ว่าจะมีการฟ้องร้องหรือไม่ เป็นการกระทำผิดที่ร้ายแรงและยอมรับไม่ได้
จึงขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะไม่หลบหนีจากปัญหาดังกล่าว แต่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาดังกล่าว และพรรคก้าวไกลจะไม่สร้างวัฒนธรรมการปกปิดการกระทำผิดของคนในองค์กร เพราะการปกปิดและการไม่มีมาตรการรับผิดเพียงเพราะกลัวองค์กรเสียชื่อเสียงต่างหาก ที่เป็นต้นเหตุสำคัญในการส่งเสริมการคุกคามทางเพศและการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลในสังคม