เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ปัญญา โต๋วสัจจา' อดีตนายก อบต.ระบำ อุทัยธานี -พวก 1 ราย เบิกจ่ายเงินอบรมศึกษาดูงานเท็จ ปกปิดประกาศสอบราคาจ้างถนน 7 โครงการ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาลงโทษ คงจำคุกคนละ 3 ปี 4 เดือน แต่รอลงอาญา - ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายปัญญา โต๋วสัจจา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี กับพวก คือ นายปัญญา ชอัมพงษ์ เบิกจ่ายเงินในการดำเนินโครงการอบรมศึกษาดูงานเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ 2555 เป็นเท็จ และปกปิดประกาศสอบราคาจ้างโครงการปรับปรุงถนนลูกรังและโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก รวม 7 โครงการ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา มาตรา 151, 157 และ 162 (4) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นายปัญญา โต๋วสัจจา จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 151 นายปัญญา ชอัมพงษ์ จำเลยที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 151, 157 และ 162 (4) การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ ตามมาตรา 151 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามมาตรา 90
2. ลงโทษจำเลยทั้งสองจำคุกคนละ 5 ปี และปรับคนละ 15,000 บาท ทางนำสืบของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษตามมาตรา 78 สมควรลดโทษให้คนละหนึ่งในสาม
คงจำคุกคนละ 3 ปี 4 เดือน และปรับคนละ 10,000 บาท
3. ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ประกอบกับพฤติการณ์แห่งคดียังไม่ร้ายแรงและองค์การบริหารส่วนตำบลระบำ ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ 3 ปี
4. ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยทั้งสองต่อจากโทษของจำเลยทั้งสองในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 167/2564 หมายเลขแดงที่ 126/2565 ของศาลนี้นั้น คดีดังกล่าวศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด และศาลรอการลงโทษจำเลยทั้งสองคดีนี้ไว้ จึงไม่อาจนับโทษต่อให้ได้ จึงให้ยกคำขอส่วนนี้
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งสอง มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นควรอุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท