เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'นุสรา แสนนาม' อดีตผอ.สถานพินิจคุ้มครองเด็กเพชรบูรณ์ เบียดบังเงินงบประมาณเหลือจ่ายโครงการพัฒนาเยาวชนเชิงบวก ล่าสุดศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้โทษเหลือ จำคุก 1 ปี จาก 2 ปี 6 เดือน -ป.ป.ช.ขออสส.ฎีกาสู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นางนุสรา แสนนาม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเพชรบูรณ์ กับพวก 2 ราย คือ นางเสาวนีย์ บุตรศิริ และนางวัชรีพร ทองเนื้อแปด เบียดบังเงินงบประมาณเหลือจ่ายโครงการพัฒนาเยาวชนเชิงบวก ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา มาตรา 147 , 157 ประกอบมาตรา 83 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2566 ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้คำพิพากษา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6
จากที่พิพากษาว่า นางนุสรา แสนนาม จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 147, 157 ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามมาตรา 147 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามมาตรา 90
จำคุก 5 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก จำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี 6 เดือน
นางเสาวนีย์ บุตรศิริ จำเลยที่ 2 และนางวัชรีพร ทองเนื้อแปด จำเลยที่ 3 มีความผิดตามมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83
จำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3 คนละ 2 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 ปี
แก้เป็นว่า นางนุสรา แสนนาม จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 157 (เดิม) ประกอบมาตรา 83 จำคุก 2 ปี
ลดโทษให้ตามมาตรา 78 กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี
ข้อหาอื่นให้ยกและให้ยกคำขอนับโทษต่อของโจทก์กับให้ยกคำขอของโจทก์ที่ขอให้จำเลยที่ 1 คืนหรือใช้เงิน 21,000 บาท แก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 25 ก.ค.2566 ได้พิจารณาแล้ว มีมติเห็นควรมีหนังสือขอความอนุเคราะห์อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อพิจารณาฎีกาคำพิพากษาดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
อนึ่ง สำหรับ นางนุสรา แสนนาม เคยปรากฏเป็นข่าว เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2561 ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาจำคุก 5 ปี ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริตกรณีเอารถยนต์ส่วนกลางไปใช้ภารกิจส่วนตัวไปแล้ว
- ที่แท้‘คนใน’ร้อง- 2 คนขับให้การมัด! คดีจำคุก 5 ปี ผอ.สถานพินิจฯ เอารถหลวงใช้ส่วนตัว
- ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จำคุก 5 ปี ผอ.สถานพินิจฯ เพชรบูรณ์ เอารถหลวงใช้ส่วนตัว