'บิ๊กก้อง' มาแล้ว ยันไม่กังวลเรื่องกล้องวงจรปิด มั่นใจหลักฐานพยานที่มีอยู่เพียงพอเอาผิด 'กำนันนก' ให้ต้องโทษประหารฐานเป็นผู้บงการ ส่วน 'บิ๊กโจ๊ก' แถลงเมื่อคืนจับลูกน้องกำนันอีกสองคน วงจรปิดชัดใครช่วยตำรวจคนเจ็บ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ภายหลัง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความคืบหน้า คดี นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ว่า แม้ตัว นายประวีณ ปัจจุบัน จะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ แต่แนวทางสืบสวนก็ยังคงดำเนินต่อไป ทั้งนี้ก็เพื่อสืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเอาผิด นายประวีณ ให้ได้มากที่สุด เพราะการกระทำของ นายประวีณ กับ ลูกน้องนั้น เป็นที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ส่วนกรณีกล้องวงจรปิดที่ยังกู้ได้ไม่ครบนั้น “ผมยืนยันว่าจากพยานหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้ ถือว่าแน่นหนาบ่งชี้ได้ว่า นายประวีณ คือผู้สั่งการให้ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.กก.2 บก.ทล. ได้ โดยเฉพาะคำให้การของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ พยานแวดล้อม ที่ไปที่มาของอาวุธปืน พฤติกรรมการทำลายหลักฐาน หรือ เจตนาของผู้ก่อเหตุ รวมไปถึงมูลเหตุแรงจูงใจ และพยานอื่นๆอีกมากมาย ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญทางคดี ที่สามารถทำให้นายประวีณ ต้องได้รับโทษสูงสุด คือ “ประหารชีวิต” ได้”
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ชุดคลี่คลายคดีเร่งขยายผลตรวจสอบเครือข่ายธุรกิจของ นายประวีณ อย่างละเอียด ทุกกิจการ ว่า เกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลโครงการก่อสร้างต่างๆ หรือ เสียภาษีถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ รวมไปถึงตรวจสอบทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดว่ามีที่ไปที่มาอย่างไร ซึ่งขณะนี้พอมีข้อมูลพยานหลักฐานบ้างแล้ว แต่อาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบหรือขยายผลอีกสักระยะเพื่อข้อเท็จจริงกระจ่างชัด
มีรายงานด้วยว่า พล.ต.ท.จิรภพ ได้เตรียมที่จะลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมกองกำกับการตำรวจทางหลวง 2 จังหวัดนครปฐม เพื่อให้กำลังใจตำรวจ นอกจากนี้ยังให้ตำรวจสอบสวนกลางรวบรวมหลักฐานและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลในจังหวัดนครปฐมทั้งหมด เพื่อเตรียมเปิดปฏิบัติการปราบอิทธิพลแบบถอนรากถอนโคน โดยอาจจะราวมมือกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต่อไป
โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2566 เวลา 21.40 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาดูกล้องวงจรอีก 2 ตัว จากใน 15 ตัว ภายในบ้านของกำนันนก ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด โดยใช้เวลาดูประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะนำภาพจากกล้องวงจรปิดบางส่วนในที่เกิดเหตุ ช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ มาเปิดเผยให้สื่อมวลชนได้ดู
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้เปิดภาพที่ได้กล้องวงจรปิดให้ดู โดยภาพแรก เป็นภาพ ขณะที่ตำรวจ 3 นาย คือ ดต.สราวุธ , ดต.ชนาณัฐ และ พ.ต.ต.ณรงค์ อุ้มร่าง สว.ศิว หลังถูกยิงบาดเจข็บ ขึ้นรถ โดยมีพลขับวิ่งไปนำรถเก๋งแล้วพาตัว สว.ศิว นั่งเบาะหน้าข้างคนขับ ส่วน ตร.อีกคนนั่งเบาะหลังแล้วคอยเอามืออุดบาดแผลจากรอยกระสุน แล้วพลขับก็พาไป โรงพยาบาล จากนั้นก็เป็นภาพหลังจาก สว.วศิน ถูกยิง จากนั้น สว.อำนวยการไปช่วย สว.วศิน ที่ล้มอยู่ แล้วมี ตร.อีก 4 นาย คือ ดต.สราวุธ , พ.ต.ต.ณรงค์ , ร.ต.ท.จตุรวิทย์ และ พ.ต.ท.ภทร ไปช่วยพาขึ้นรถกระบะ รวมทั้งมี ผกก.เบิ้ม อยู่ด้วย
ส่วนอีกภาพ เป็นช่วยก่อนเกิดเหตุตอน 2 ทุ่มกว่าๆ นายหน่อง อยู่ในงาน ในกระเป๋ากางเกงมีปืนทีใช้ก่อเหตุ และอีกภาพ เป็นเวลาประมาณ 19.40 น. นายเด้ง ญาติของกำนันนก กับ นายต๋อง เดินเข้ามาในงาน และมีภาพส่งปืนให้ นายเด้ง เข้าไปในงานด้วย หลังมือปืนลั่นไก นายเด้ง ชักปืนออกมา ลักษณะปกป้องกำนัน จากนั้นก็เป็นภาพ 1 ใน 6 ตร.ที่ถูกจับในชุดแรก ถอดเสื้อ โดยมีปืนเหน็บไว้ที่เอว หลังอ้างว่าไม่มีปืน อีกคนก็มีปืนพกไว้ที่เอวเช่นเดียวกัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ภาพแรกสิ่งที่สังคมสงสัย ตร.คนให้การการเท็จ จะเห็นว่าคนช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บมีแค่นี้เอง ที่ให้การว่าช่วยก็ไม่ได้ช่วย คำให้การขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ส่วนการดำเนินคดีจะร่วมกันพิจารณาแจ้งข้อหาให้การเท็จ ว่ามี ตร.นายบ้างที่ต้องถูกแจ้งข้อหานี้
วันนี้ดำเนินคดี นายเด้ง กับ นายต๋อง ในกรณีพกปืน นายต๋อง เอาปืนมาให้ นายเด้ง โดนแจ้งข้อาหาไปแล้วทั้งคู่ และวันนี้ได้ดูกล้องทั้งหมด สิ่งที่สังคมคาใจใครช่วย-ไม่ช่วยบ้าง ตร.ในงานส่วนใหญ่มีปืน แต่ไม่ช่วย ทั้งที่เป็นเหตุซึ่งหน้า ซึ่งเตรียมดำเนินคดี หลังเกิดเหตุแล้ว ตร.กลับไปช่วยผู้กระทำผิด แทนที่จะอยู่ข้าง ตร. ช่วย ตร. กลับไปช่วยผู้กระทำผิด ส่วนนายตำรวจระดับสูงเผ่นแน็บ แล้วบอกว่าไปช่วย แต่ก็ไม่ได้ช่วยเลย แบบนี้ย่ำแย่มาก ซึ่งจะดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัย
ส่วนกล้อง 2 กล้องที่สับสนกันตั้งแต่เช้า เพิ่งได้ข้อเท็จจริง ที่กู้ได้ 100% มีแค่ 13 ตัว ส่วนกล้องอีก 2 ตัว โดยตัวแรก กล้องไม่ได้ใช้งานตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. อีกตัวเวลาเดินมาที่ 10.16 น. วันเกิดเหตุ และไม่มีภาพหลังจากนี้ สรุปแล้วไม่มีการดึงปลั๊ก ไม่มีการถอดสาย หลังถอดบอร์ดออกตรวจสอบสรุปแล้ว กำนันนกไปกดสวิทปิดตอนเวลา 10.16 น. เหตุเพราะอาจมีคนมาเตือน ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาจัดสถานที่งานเลี้ยง คาดว่ามีคนไปเตือนเรื่องการจัดงาน กล้องต้องไม่ให้เห็นว่ามีใครมานั่งบ้าง จึงไปปิดกล้องเลยไม่มีการบันทึกภาพตั้งแต่นั้นมา
เหตุการณ์ในการยิงในงานนั้น คงไม่มีใครคิดว่าจะรุนแรงแบบนี้ หลังทะเลาะกัน กำนันไปคุยกับนายหน่อง มีพยานหลักฐานชัดเจนว่ากำนันสั่งยิง หลังยิงแล้วลูกน้องกำนันยืนคุมเชิงทุกจุด แต่ ตร.ต่างคนต่างออก ต่างคนต่างทิ้งหน้าที่ ตร.บางส่วนเห็นความผิดซึ่งหน้าแต่ไม่จับกุม อันนี้มีความผิดชัดเจน
เดินทีที่สอบปากคำตำรวจในงานบอกว่า ไปส่งคนเจ็บที่ รพ.เป็น 10 คน แค่ความจริงแล้วมีแค่ 5 คนเท่านั้น ตามภาพวงจรปิดที่ปรากฎ เป็นสิ่งบ่งบอกว่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไม่มีใครไปช่วยเลย ต่างคนต่างเอาตัวรอด ส่วนจะแจ้งจ้อหาใครบ้างพรุ่งนี้พิจารณากัน พยานหลักฐานมัดกำนันนก ตอนนี้มันจบแล้ว หลังจากนี้จะไล่ขยายผลต่อ ความร่ำรวยผิดปกติ เส้นทางการเงินมาจากไหน ต้องตอบให้ได้ และเรื่องธุรกิจ การประมูลงานต่างๆ ทั้ง 1,500 โครงการ มันยิ่งกว่าผิดปกติ ต้องตรวจสอบ ถ้าผิดต้องถูกดำเนินการฟอกเงินยึดทรัพย์ รวมถึงดำเนินการเรื่องภาษี
การปิดกล้องต้องตั้งใจปิด คงไม่ได้คิดจะสังหารในตอนนั้น แค่ไม่อยากให้เห็นว่ามีใครบ้างในงาน คาดว่ามีคนเตือน ซึ่ง สว.ศิวกร เข้ามาในงานได้แป็บเดียวก็มีการยิงเกิดขึ้น ในงานลูกน้องกำนันมีปืนหมด ตร.ก็มีปืน ส่วน นายหน่อง ก็พกปืนตลอด สรุปเป็นความหึกเหิม เป็นความคึกคะนอง
ในงาน นายต๋อง ส่งปืนให้ นายเด้ง ซึ่งก็รู้แน่ว่าถ้ามีเรื่องต้องมีการใช้อาวุธ คนในงานรู้ว่าลูกพี่มีปัญหากับ สว.คนนี้ ถ้ามีปัญหาก็ต้องยิงกัน จึงตระเตรียมไว้ก่อน วงจรปิดมีมากกว่านี้ ก่อนยิงมีการเคลียร์กัน มีการเอาคนแก่ออกจากงานไปก่อน เปิดทางให้รถเตรียมออก จากนั้นกำนันนกออกมาคุยกับ นายหน่อง และกำนันนกส่งสัญญาณให้ยิง
มูลเหตุสำคัญ 1.การขอลูกน้องให้มาทำหน้าที่จยย.สายตรวจ 2.มีปัญหาเรื้อรัง สว.ศิวกร เข้ามาปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ทำให้รถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่งไม่ได้ ทำให้กำไรน้อยลง เป็นมูลเหตุให้มีการลุแก่อำนาจ ใช้ปืนสั่งยิง มูลเหตุมาจากเรื่องนี้
ส่วนปัญหาเรื่องการดวลเหล้านั้น มีการดวลเหล้ากัน ระหว่าง สว.ศิวกร กับกำนันนก เรื่องดวลเหล้านั้นเป็นแค่ส่วนเดียว เรื่องหลักเป็นเรื่องการไม่พอใจ สว.คนนี้อยู่แล้ว เรื่องทำให้รถเขาวิ่งลำบาก และเรื่องย้ายลูกน้อง รวมถึงกาารดวลเหล้า ซึ่ง สว.ศิวกร ไปบ้านนี้ครั้งแรก ผกก.เบิ้ม ชวนไป เพื่อให้รู้จักมักคุ้นกับกำนัน เพราะตัวเองก็สนิทอยู่แล้ว