สำนักงาน ป.ป.ช.สงขลา เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'ประจวบ ทองกลิ่น' อดีตนายก อบต.คลองทราย อำเภอนาทวี สงขลา นำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้ส่วนตัว แถมเกิดความเสียหาย ล่าสุดศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 9 พิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 150,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ทำงานบริการสังคม 18 ชั่วโมง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสงขลา ได้เผยแพร่ผลความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายประจวบ ทองกลิ่น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองทราย อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา นำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้ส่วนตัวและไม่นำกลับไปจอดเก็บรักษาที่องค์การบริหารส่วนตำบลคลองทราย โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 มีคำพิพากษา ลงโทษจำคุก 3 ปี และปรับ 150,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ทำงานบริการสังคม 18 ชั่วโมง
คดีนี้ สำนักงาน ป.ป.ช.สงขลา ระบุว่า เมื่อระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2559 จนถึงวันที่ 18 มกราคม 2562 ผู้ถูกกล่าวหาได้นำรถยนต์ส่วนกลางขององค์การบริหารส่วนตำบลคลองทรายคันหมายเลขทะเบียน ขน 3210 สงขลา ไปใช้งานส่วนตัวแต่เพียงผู้เดียว พร้อมทั้งเก็บกุญแจรถไว้กับตัวเองโดยไม่ปรากฏว่ามีการจัดทำรายงานขออนุญาตพร้อมแสดงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องนำรถไปจอดยังสถานที่อื่น
ตลอดช่วงเวลาดังกล่าวกองช่างและกองคลังได้มีบันทึกข้อความติดตามรถจากผู้ถูกกล่าวหามาโดยตลอด แต่ผู้ถูกกล่าวหากลับเพิกเฉยไม่ได้ดำเนินการตามที่ได้มีการทวงถามและไม่ได้นำรถกลับมาจอดเก็บรักษาที่องค์การบริหารส่วนตำบลคลองทราย
นอกจากนี้ ระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหานำรถไปใช้งานโดยไม่นำกลับไปจอดเก็บรักษาที่องค์การบริหารส่วนตำบลคลองทราย นั้น รถยนต์คันดังกล่าวได้เกิดความเสียหาย กล่าวคือมีร่องรอยบุบและขีดข่วนรอบคัน ล้อพร้อมยางเสียหายจนใช้การไม่ได้จำนวน 1 ชุด โดยที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้รายงานว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุใด และรถมีระยะทางการใช้งานไปแล้วถึง 42,301 กิโลเมตร ทั้งที่ในช่วงเวลาดังกล่าวผู้ถูกกล่าวหาเดินทางไปทำงานที่องค์การบริหารส่วนตำบลคลองทรายด้วยรถยนต์ส่วนตัว และใช้รถยนต์ส่วนกลางอีกคันขององค์การบริหารส่วนตำบลคลองทราย คือ รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ขน 3209 สงขลา เดินทางไปปฏิบัติราชการโดยไม่เคยนำรถยนต์ส่วนกลางคันหมายเลขทะเบียน ขน 3210 สงขลาเข้าไปที่องค์การบริหารส่วนตำบลคลองทราย
การกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้รถยนต์ส่วนกลางคันหมายเลขทะเบียน ขน 3210 สงขลา เกิดความเสียหายและองค์การบริหารส่วนตำบลคลองทรายได้รับความเสียหายขาดโอกาสในใช้งานรถยนต์ส่วนกลางคันดังกล่าวเพื่อประโยชน์หรือกิจการอันเป็นส่วนรวมขององค์การบริหารส่วนตำบลคลองทรายหรือเพื่อประโยชน์ของทางราชการได้อย่างเต็มที่
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 72/2564 เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าการกระทำของนายประจวบ ทองกลิ่น ผู้ถูกกล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็น เจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิด ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิด ฐานกระท าการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือ สวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตาม พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92 ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อฟ้องคดีอาญาต่อศาล
ผลคำพิพากษาศาล
ผลการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 พิพากษาว่าการกระทำของนายประจวบ ทองกลิ่น จำเลยมีความผิดทางอาญาฐานเป็น เจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 6 ปี และปรับ 300,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณากรณีมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
คงจำคุก 3 ปี และปรับ 150,000 บาท
ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนหลังเกิดเหตุจำเลยได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจและถอนคำร้องอันเป็นการบรรเทาผลร้ายของการกระทำความผิดเพื่อเปิดโอกาสให้จำเลยได้กลับตนเป็นพลเมืองดีของสังคม
โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี คุมความประพฤติจำเลยมีกำหนด 1 ปี ให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง และให้ทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 18 ชั่วโมง
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับคดีรถหลวง นั้น ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา เคยทำรวบรวมข้อมูลเชิงลึกปัญหามานำเสนอต่อสาธารณไปแล้ว ดูรายละเอียดในคลิป
อ่านข่าวรวมคดีรถหลวง