อสส.พิจารณาสั่งฟ้อง 2 คดีนักการเมืองท้องถิ่นตรัง หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายกฯ อบต.เขาไม้แก้ว ออกหนังสือเอื้อเอกชนรุกป่าชายเลน 13 ไร่ อดีตนายกเทศมนตรี ต.ท่างิ้ว -พวก 5 คน มีส่วนได้เสียโครงการปรับปรุงระบบจ่ายน้ำประปาเทศบาลฯ สั่งการให้ลูกจ้างดำเนินการแทนคู่สัญญา ผู้ถูกกล่าวหาเลื่อนไปรายงานตัวเพียบ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค.66 ที่ห้องประชุมอมรา ชั้น 2 อาคาร 8 ชั้น วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ตรัง นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ ป.ป.ช.ตรัง และหัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต เปิดแถลงข่าวกรณีอัยการสูงสุด (อสส.) มีคำสั่งรับดำเนินคดีอาญาฟ้องใน 2 คดีความผิดนักการเมืองท้องถิ่นจังหวัดตรัง ภายหลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาไปก่อนหน้านี้
สำหรับคดีที่ 1 หลังจากเมื่อเดือน ม.ค.66 ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ตรัง ได้เปิดเผยถึง มติ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายพีรพนธ์ ลังเมือง ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วน ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง ออกหนังสืออนุญาตให้บริษัท ปัญจะพัฒนาวิศวกรรมและพาณิชย์การ จำกัด ใช้ที่ดินเขตถนนสายช่องราโพธิ์ - ทุ่งขี้เหล็ก - ถนนต้นม่วง ระยะทาง 1,130 เมตร ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองกะลาเส ป่าคลองไม้ตาย และอยู่ในพื้นที่จำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน เป็นการขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี ที่ให้ระงับการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนโดยเด็ดขาดและห้ามมิให้อนุญาตการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนในทุกกรณี และการก่อสร้างและปรับปรุงถนนสายช่องราโพธิ์ - ทุ่งขี้เหล็ก – ถนนต้นม่วง เป็นการตัดถนนเข้าไปในพื้นที่ป่าชายเลนโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเหตุให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้รับความเสียหาย เนื่องจากป่าชายเลนถูกบุกรุก เนื้อที่ 13 - 0 - 17.5 ไร่ มูลค่า 1,543,466.94 บาท ส่วนบริษัทฯพร้อมพวกรวม 4 ราย ทาง ป.ป.ช.ชี้ข้อกล่าวหาไม่มีมูล
ภายหลังจากมีการชี้มูลความผิด ป.ป.ช.ตรัง ได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี กับนายพีรพนธ์ ลังเมือง ต่อมาทางนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง ในฐานะผู้บังคับบัญชา นายพีรพนธ์ฯ ได้มีการอุทธรณ์คดีดังกล่าวต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่ามีพยานหลักฐานใหม่เกิดขึ้น อยากจะให้ทาง ป.ป.ช. ได้ทบทวนมติชี้มูลดังกล่าว มาตรา 99 ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณา
กระทั้งล่าสุดผลจากการชี้มูลความผิด อัยการสูงสุดได้พิจารณารายงาน เอกสาร และความเห็นในคดีดังกล่าวมีคำสั่งรับดำเนินคดีอาญาฟ้อง นายพีรพนธ์ ลังเมือง ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 , 157 และกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 103/1 และให้ส่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหา และให้ไปรายงานตัวต่อศาลอาญาคดีทุจริตละประพฤติมิชอบภาค 9 ในวันที่ 20 ส.ค.66 เวลา 09.30 น. แต่ทางผู้ถูกกล่าวหาได้ขอเลื่อนไปรายงานตัวเป็นวันที่ 21 ก.ย.66 และจะเข้าสู่ขบวนการของศาลต่อไป
สำหรับคดีที่ 2 หลังจากช่วงเดือน เม.ย.66 ที่ผ่านมา ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายธรรมศทรรศ กี่สุ้น (นายทักษนัย กี่สุ้น) นายกเทศมนตรี ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง พร้อมพวก 6 คน กรณีทุจริตในการดำเนินโครงการปรับปรุงซ่อมแซมถนน หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 7 ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง โดยนายธรรมศทรรศ ได้ทำสัญญาจ้างโครงการปรับปรุงระบบจ่ายน้ำประปาเทศบาลตำบลท่างิ้ว หมู่ที่ 1 – 8 กับร้านพรประเสริฐ โดยมีนายประเสริฐ สิทธิชัย เจ้าของร้าน และนายธีระศักดิ์ สิทธิชัย ตัวแทนของร้าน แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในงวดงานที่ 2 และ 3 นายธรรมศทรรศ กี่สุ้น นายกเทศมนตรีตำบลท่างิ้ว ได้สั่งการให้นายสุทธิลักษณ์ ทวนดำ นายสายัณห์ สมาธิ นายปิยะพงษ์ รักแหลมแค ลูกจ้างของเทศบาล ต.ท่างิ้ว ดำเนินการติดตั้ง มิเตอร์และระบบประปา โดยที่ทางร้านพรประเสริฐ คู่สัญญาไม่ได้ดำเนินการ
กระทั้งล่าสุดผลจากการชี้มูลความผิด อัยการสูงสุดได้พิจารณารายงาน เอกสาร และความเห็นในคดีดังกล่าวมีคำสั่งรับดำเนินคดีอาญาฟ้อง นายธรรมศทรรศ กี่สุ้น ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 , 151 , 152 ,157 และกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 100 (1) รับดำเนินคดีอาญาฟ้อง สุทธิลักษณ์ ทวนดำ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นายสายัณห์ สมาธิ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นายปิยะพงษ์ รักแหลมแค ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 , 90 , 151,152 , 157 และกฎหมาย ป.ป.ช. รับดำเนินคดีอาญาฟ้อง นายประเสริฐ สิทธิชัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 และนายนายธีระศักดิ์ สิทธิชัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 , 90 , 151 , 152 , 157 และกฎหมาย ป.ป.ช. โดยให้ส่งตัวฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 ราย และให้ไปรายงานตัวต่อศาลอาญาคดีทุจริตละประพฤติมิชอบภาค 9 ในวันที่ 17 ส.ค.66 เวลา 10.00 น. แต่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดได้ขอเลื่อนเป็นวันที่ 18 ก.ย.66 และจะเข้าสู่ขบวนการของศาลต่อไป
อย่างไรก็ดี ใน 2 คดีดังกล่าว ยังไม่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหา ยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดี เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก