ปปง.แพร่ประกาศบุคคลที่ถูกกำหนดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายฯ ‘Thailand List’ เพิ่มอีก 2 ราย เผยยอดจนถึงปัจจุบัน 286 ราย เพิกถอนไปแล้ว 25 ราย ขณะที่รายชื่อตามประกาศสหประชาชาติ 345 ราย นิติบุคคลด้วย 89 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2566 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เผยแพร่ประกาศรายชื่อบุคคลที่ศาลแพ่งมีคำสั่งเป็น ‘บุคคลที่ถูกกำหนด’ ตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2559 (Thailand List) เพิ่มเติมจำนวน 2 รายชื่อ ได้แก่ นายอิบรอเฮ็ม สูดี และ นายรอห์มา สาแลแม โดยให้ผู้มีหน้าที่รายงาน หรือ บุคคลที่ครอบครองทรัพย์สินของบุคคลดังกล่าวดำเนินการ
1.ระงับการดำเนินการทรัพย์สินของบุคคลดังกล่าว 2.แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคลดังกล่าวให้ ปปง.ทราบ 3.แจ้งให้สำนักงาน ปปง.ทราบเกี่ยวกับผู้ที่เป็นหรือเคยเป็นของบุคคลดังกล่าว หรือเคยมีธุรกรรรมร่วมกับผู้นั้น (ดูเอกสารและลิงก์แนบ)
https://www.amlo.go.th/dpl/uploads/content_attachfile/64b620875993b.pdf
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ก่อนหน้านี้ ปปง.ได้ประกาศ รายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2559 (Thailand list) จนถึงปัจจุบัน จำนวนทั้งสิ้น 286 ราย (มีสถานะบุคคลที่ถูกกำหนด 261 ราย เพิกถอนไปแล้ว 25 ราย https://www.amlo.go.th/dpl/content/detail/219
ขณะเดียวกับ ปปง.ได้ออกประกาศสำนักงาน ปปง.ที่ 7 /2566 ลงวันที่ 25 ก.ค.2566 รายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดตามมาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2559 (กลุ่ม ISIL และกลุ่ม Al-Qaida) มีจำนวนทั้งสิ้น 345 ราย จำแนกเป็นบุคคลธรรมดา 256 ราย และนิติบุคคล 89 ราย (ดูประกาศ ในลิงก์
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2559
มาตรา 6 ในกรณีที่มีมติของหรือประกาศภายใต้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กําหนดรายชื่อบุคคล คณะบุคคล นิติบุคคล หรือองค์กรใดเป็นผู้ที่มีการกระทําอันเป็นการก่อการร้าย และสํานักงานเห็นว่ามติหรือประกาศดังกล่าวไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายไทย ให้สํานักงานดําเนินการ ประกาศรายชื่อนั้นเป็นบุคคลที่ถูกกําหนดเพื่อดําเนินการให้เป็นไปตามมติหรือประกาศดังกล่าว
การเพิกถอนรายชื่อของบุคคลที่ถูกกําหนดตามวรรคหนึ่ง ให้กระทําได้เมื่อมีมติของหรือประกาศ ภายใต้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอันเป็นผลให้ต้องเพิกถอนรายชื่อผู้นั้นออกจากรายชื่อบุคคล ที่ถูกกําหนดแล้ว
การประกาศรายชื่อตามวรรคหนึ่งและการเพิกถอนรายชื่อตามวรรคสอง สํานักงานต้องดําเนินการ โดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกําหนด
มาตรา 7 ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยและมีพยานหลักฐานอันสมควรว่าผู้ใดมีพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย หรือดําเนินการแทนหรือตามคําสั่ง หรือภายใต้การควบคุมของบุคคลนั้น ให้สํานักงานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการธุรกรรมพิจารณา ส่งรายชื่อผู้นั้นให้พนักงานอัยการพิจารณายื่นคําร้องฝ่ายเดียวขอให้ศาลมีคําสั่งเป็นบุคคลที่ถูกกําหนด และถ้าปรากฏแก่ศาลว่ามีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ดังต่อไปนี้ ให้ศาลมีคําสั่งตามที่ขอ
(1) ผู้นั้นมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย หรือ
(2) ผู้นั้นดําเนินการแทนหรือตามคําสั่งหรือภายใต้การควบคุมของบุคคลที่ถูกกําหนดตาม (1) หรือตามมาตรา 6
เมื่อคณะกรรมการธุรกรรมเห็นชอบให้ส่งรายชื่อตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้สํานักงานรายงานต่อ คณะกรรมการในการประชุมคราวถัดไป
ให้สํานักงานประกาศรายชื่อบุคคลที่ถูกศาลมีคําสั่งเป็นบุคคลที่ถูกกําหนดและแจ้งให้บุคคล ดังกล่าวทราบ ทั้งนี้ การประกาศและการแจ้งให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการประกาศกําหนด
ให้สํานักงานทบทวนรายชื่อบุคคลที่ถูกกําหนดตามวรรคหนึ่ง ถ้าเห็นว่ามีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงไป ให้สํานักงานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการธุรกรรมพิจารณาส่งเรื่องให้พนักงานอัยการพิจารณา ยื่นคําร้องฝ่ายเดียวขอให้ศาลมีคําสั่งเพิกถอนรายชื่อผู้นั้นออกจากรายชื่อบุคคลที่ถูกกําหนด
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาของสํานักงานและคณะกรรมการธุรกรรมตามวรรคหนึ่งและวรรคสี่ ให้เป็นไปตามที่กําหนดในกฎกระทรวง โดยในกฎกระทรวงดังกล่าวที่เกี่ยวกับการพิจารณาของสํานักงาน
ให้สํานักงานแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่งเพื่อพิจารณารายชื่อก่อนส่งเรื่องให้คณะกรรมการธุรกรรม พิจารณาให้ความเห็นชอบ
ให้สํานักงาน คณะกรรมการธุรกรรม พนักงานอัยการ และศาล ดําเนินการตามมาตรานี้ โดยไม่ชักช้า