พรรคเพื่อไทย จับมือ 6 พรรค 'ประชาชาติ-ชาติพัฒนากล้า-เสรีรวมไทย-พลังสังคมใหม่-เพื่อไทรวมพลัง-ท้องที่ไทย' ตั้งรัฐบาล นับรวม ภูมิใจไทย ได้เสียงเพิ่มแล้ว 228 เสียง ชี้ต้องสลายขั้วการเมือง แก้วิกฤตประเทศ หวังทุกฝ่ายสามัคคี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2566 ที่อาคารรัฐสภา พรรคเพื่อไทยแถลงข่าวความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันกับ 6 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง พรรคประชาชาติ, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า, พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่, นายวรเชษฐ เชิดชู เลขาธิการพรรคเพื่อไทรวมพลัง และนายบัญชา เดชเจริญศิริกุล พรรคท้องที่ไทย ทำให้พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ รวมทั้งสิ้น 8 พรรค
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อ่านแถลงการณ์ ดังนี้
คำแถลงจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองต่างๆ
วันนี้ พรรคเพื่อไทยได้รวบรวมเสียงเพิ่มเติม และได้รับการสนับสนุนจาก 6 พรรคการเมืองประกอบด้วย พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย และรวมเสียงโหวตได้มากกว่ากึ่งหนึ่งแล้ว
พรรคเพื่อไทยและทุกพรรคการเมืองคาดหวังอย่างยิ่งว่า จะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ สลายขั้วการเมือง ทุกฝ่าย เดินหน้าขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากหลายพรรคการเมือง และเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ สามารถบริหารประเทศ และเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว ที่ขณะนี้กำลังเผชิญความเดือดร้อนรุนแรง การประวิงเวลาออกไปยิ่งทำให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเท่าไรจะยิ่งแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น
เรายืนยันจะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษ ท่ามกลางวิกฤตรัฐธรรมนูญ วิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน และวิกฤตความขัดแย้งในสังคม แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งสีแบ่งขั้ว
การที่จะแก้วิกฤตครั้งนี้ได้ ต้องสลายขั้วการเมือง ดึงความร่วมมือจากทุกพรรคทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกคน เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทย และนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ เพื่อนำรัฐธรรมนูญออกจากวิกฤต เพื่อนำประชาชนให้พ้นทุกข์ เพื่อสร้างความสามัคคี สมานฉันท์ โดยถือเป็น “วาระประเทศ” ที่สำคัญอย่างสูงสุด
เราอยากขอวิงวอน ให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองที่ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ เราจะช่วยกันฝ่าวิฤตเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนทุกคน
เราหวังจะเห็นความสามัคคีของทุกฝ่ายในประเทศ
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ในนามของพรรคชาติพัฒนากล้า ต้องขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ได้เชิญพรรคชาติพัฒนากล้าเข้ามาร่วมหารือจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ หลังจากที่ครั้งแรกเชิญไปหารือที่พรรคเพื่อไทยมาแล้ว พรรคชาติพัฒนากล้าขอตอบรับคำเชิญร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ
เหตุผลที่ตอบรับคำเชิญ มีดังนี้
1. เพื่อไทยเป็นพรรคชอบธรรมอันดับ 2 เมื่อที่ 1 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็เป็นหน้าที่ของพรรคอันดับ 2
2. ภายในที่ประชุมได้หารือกัน พรรคเพื่อไทยยืนยันกับทุกพรรคว่า ได้รวบรวมเสียงสส.แล้วเกินกึ่งหนึ่ง จึงมั่นใจว่าการจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก
3. ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะไม่มีนโยบายใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ม.112 แต่อย่างใด
4. พรรคเพื่อไทยมีความแน่วแน่แก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ พรรคชาติพัฒนากล้าจึงมั่นใจ เพราะพรรคเพื่อไทยเคยมีประสบการณ์แก้ไขปัญหามาแล้วในอดีต และมีบุคลากรด้านต่าง ๆ อีกทั้งประชาชนต้องการเห็นการแก้ไขเศรษฐกิจ บรรยากาศการลงทุน ส่งออก รวมถึงการท่องเที่ยวและปัญหาสินค้าราคาแพง
5. มาถึงวันนี้แล้วเกือบ 3 เดือนหลังเลือกตั้ง ยังไม่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง มีแต่รัฐบาลรักษาการที่มีขีดจำกัดในการบริหาร จึงมีความจำเป็นที่ต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเพื่อสร้างความมั่นใจของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และลดความกังวลใจของประชาชน ว่าจะมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ฉะนั้นการที่ปล่อยให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองจะไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย จึงต้องร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จเพื่อให้เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกต้องตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ขอให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารวมเสียงได้เท่าใดแล้ว นพ.ชลน่าน ตอบว่า ขณะนี้รวมได้ 228 เสียงแล้ว จะพยายามรวมเสียงให้ได้มากขึ้นและคาดว่าจะเสร็จสิ้นในสัปดาห์นี้ หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้ง สส.และสว.ในการโหวตเลือกนายกจะช่วยสนับสนุนเพื่อแก้วิกฤต
นายภูมิธรรม กล่าวเสริมว่า วันนี้ช่วงบ่ายจะมีการหารือกับพรรคก้าวไกล ตอนนี้พยายามทำให้ทุกฝ่ายเข้าร่วม เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลพิเศษที่มีวิกฤต 3 ด้าน ในด้านรัฐธรรมนูญ ปากท้องประชาชนและความขัดแย้ง ต้องการให้รัฐบาลนี้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่จากความขัดแย้งตลอดเกือบ 20 ปี ทุกพรรคที่แถลงร่วมกับเพื่อไทยเอาวาระของประชาชนและวาระประเทศเป็นที่ตั้ง ถ้าพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จแม้ว่าพรรคนั้นจะเป็นฝ่ายค้านถ้านโยบายมีประโยชน์เพื่อไทยก็จะเอามาทำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2566 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคภูมิใจไทยเป็นทางการ ไปแล้ว
เท่ากับขณะนี้มีพรรคการเมือง 7 พรรค ที่จับมือร่วมพรรคเพื่อไทย ตั้งรัฐบาลแล้ว คือ พรรคประชาชาติ พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคท้องที่ไทย และ พรรคภูมิใจไทย