กษัตริย์กัมพูชาแต่งตั้ง 'ฮุน มาเนต' ลูกชาย 'ฮุน เซน' เป็นนายกฯกัมพูชา ขณะเจ้าตัวระบุเป็นโอกาสยิ่งใหญ่ที่จะรับใช้ชาติ ขณะผู้เชี่ยวชาญคาดกัมพูชาจะไม่เปลี่ยนแปลง,ปฏิรูป หรือเข้าหาตะวันตกมากขึ้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานอ้างจากสำนักข่าวเอเอฟพี ระบุว่าเมื่อวันที่ 7 ส.ค. พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์พระองค์ปัจจุบันแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ทรงออกพระราชกฤษฎีกาแต่งตั้ง ฮุน มาเนต เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศ หลังจากที่พรรคประชาชนกัมพูชาของนายฮุน เซนคว้าชัยชนะได้เมื่อเดือนที่แล้ว และตัวนายฮุน เซน ประกาศวางมือจากตำแหน่งผู้นำ พร้อมส่งไม้ต่อให้ลูกชายคนโต
นายฮุน เซน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลก ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งล่าสุดซึ่งถูกประณามอย่างกว้างขวางว่าเป็นละครการเมือง หลังจากที่ใช้กฏหมายกีดกันฝ่ายตรงข้ามจนไม่สามารถเข้าแข่งขันอย่างยุติธรรมได้
ในการรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ พล.อ.ฮุน มาเนต วัย 45 ปี และคณะรัฐมนตรีของเขาจะต้องได้รับการลงคะแนนเสียงจากรัฐสภาในวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดเพราะพรรคประชาชนกัมพูชากวาดไปได้ 125 ที่นั่งจากทั้งหมด 130 ที่นั่ง ในสภาผู้แทนฯ
เป็นเวลาหลายปีที่นายฮุน เซน ใช้ทุกวิธีการในการทำให้ตัวเองได้ครองอำนาจอย่างยาวนานเกือบ 4 ทศวรรษ จนกระทั่งประกาศวางมือและยืนกรานว่าเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการปกครองของลูกชาย แต่ทิ้งท้ายว่าตัวเองจะยังคงมีบทบาททางการเมืองต่อไปจนกว่าจะถึงปี 2576 เป็นอย่างน้อย
หลังจากก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายฮุน เซน ได้กล่าวว่าเขาจะเข้าดำรงตำแหน่งเป็นประธานวุฒิสภาในต้นปีหน้า ซึ่งจะทำให้เขาทำหน้าที่เป็นประมุขแห่งรัฐแทน หากกษัตริย์เสด็จไปต่างประเทศ
ในจดหมายถึงกษัตริย์ พล.อ.ฮุน มาเนต ขอบคุณพระองค์สำหรับโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จะได้รับใช้ชาติ พร้อมให้คำมั่นว่าจะรักษาสันติภาพ, ผลักดันการพัฒนา และปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพในประเทศ
นายสม รังสี นักการเมืองฝ่ายค้านคู่ปรับสำคัญของนายฮุน เซน ซึ่งตอนนี้ลี้ภัยอยู่ที่ฝรั่งเศส กล่าวว่า ความหวังที่จะมีเสรีภาพมากขึ้นภายใต้การปกครองของฮุน มาเนต อย่างที่หลายฝ่ายมีความหวังนั้น อาจเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา เพราะถึงตัวผู้นำจะเปลี่ยน แต่จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หากว่าระบบยังคงเหมือนเดิม
ส่วนทางด้านของนายเซบาสเตียน สแตรนจิโอ ผู้เขียนหนังสือกัมพูชาของฮุน เซน ให้สัมภาษณ์ว่าแม้ พล.อ.ฮุน มาเนต จะได้รับการปลูกฝังมานานหลายปี แต่เขาก็ยังไม่เคยผ่านการทดสอบในเวทีการเมืองและยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก
“มันยากมากที่จะกําหนดวิสัยทัศน์ที่โดดเด่นของประเทศ” นายสแตรนจิโอกล่าวและกล่าวต่อว่าตัวเขายัง พล.อ.ฮุน มาเนต มีความสามารถหรือความปรารถนาจะผลักดันกัมพูชาให้ไปสู่ทิศทางของการปฏิรูปอย่างมีนัยยะสำคัญ
"พล.อ.ฮุน มาเนตได้รับการศึกษาในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา แต่มีสัญญาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่เขาจะนำกัมพูชาเข้าใกล้มหาอำนาจตะวันตกมากขึ้น"นายสแตรนจิโอกล่าวทิ้งท้าย