สื่ออินโดฯ เผย สถานะประชาธิปไตยอาเซียนน่าเป็นห่วง หลัง 'ฮุนเซน'ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย ควบคู่กับกองทัพ/รอยัลลิสต์ไทยบล็อกผู้ชนะจากการเลือกตั้ง ขณะนักวิชาการจาก ม.ญี่ปุ่นชี้ 'ทักษิณ' ควรขึ้นศาลโลกจากเหตุการณ์ภาคใต้ ไม่ใช่ขออภัยโทษหรือติดคุกที่ไทย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทยจากสื่อต่างประเทศว่าทางสำนักข่าวจาการ์ตาโพสต์ของอินโดนีเซียได้มีการเผยแพร่บทวิเคราะห์บรรณาธิการระบุว่าจากกรณีที่นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ผ่านกระบวนการที่มีการรับประกันชัยชนะการเลือกตั้งแต่ก่อนแล้ว ควบคู่ไปกับการที่ฝ่ายกองทัพและผู้อ้างตัวว่าเป็นผู้จงรักภักดีต่อสถาบันในประเทศไทยหรือว่ารอยัลลิสต์ได้ดำเนินการบล็อกผู้ชนะจากผลการเลือกตั้งในเดือน พ.ค. ทั้งหมดนี้เน้นย้ำให้เห็นถึงความอ่อนแอของประชาธิปไตยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประเด็นที่ว่ามานี้เป็นเรื่องน่ากังวลต่ออินโดนีเซีย ในฐานะที่เป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค
บทบรรณาธิการจาการ์ตาโพสต์ระบุต่อไปว่าชัยชนะของนายฮุนเซนนั้นเกิดขึ้นจากภัยของการข่มขู่และปราบปรามมากกว่าผลการลงคะแนน ควบคู่ไปกับการที่ฝ่ายกองทัพและรอยัลลิสต์ในประเทศไทยได้ดำเนินแผนสมคบคิดกันนั้น ทั้งหมดเป็นสัญญาณอันตรายต่อโอกาสที่จะมีประชาธิปไตยเบ่งบานในอาเซียน
“การโจมตีต่อประชาธิปไตยสองครั้งบนประเทศที่เป็นที่รู้จักกันดีในภูมิภาค เกิดขึ้นในขณะที่อาเซียนยังคงล้มเหลวอย่างต่อเนื่องเพื่อหยุดยั้งรัฐบาลทหารเมียนมาไม่ให้กระทำการที่รุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนของตัวเอง ตอนนี้อาเซียนได้เห็นแล้วว่ามีประเทศสมาชิก 3 จากทั้งหมด 10 ประเทศที่เข้าถึงจุดต่ำสุดของการถดถอยของประชาธิปไตย และยังไม่ต้องถึงประเทศอื่นๆที่อยู่ในจจุดที่ต่างกันออกไประหว่างลัทธิเสรีนิยมและเผด็จการ” บทบรรณาธิการระบุ
ทั้งนี้มีการวิเคราะห์กันว่าการที่นายฮุนเซนได้ประกาศลาออก พร้อมยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของตัวเองให้กับ พล.อ.ฮุน มาเนต ผู้เป็นบุตรชายนั้นเป็นการสืบทอดอำนาจทางการเมืองเทียบเท่าได้กับแนวคิดที่ประเทศเกาหลีเหนือ
ส่วนสำนักข่าวเซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ของฮ่องกงได้รายงานว่าพรรคประชาชนกัมพูชาของฮุนเซนได้รับคะแนนเสียง 82.3% แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เสรีและยุติธรรม
สำนักข่าวจากฮ่องกงยังได้อ้างคำพูดของนายเส็ง สารี นักวิเคราะห์ทางการเมืองระบุว่า พล.อ.ฮุน มาเนต ยังคงต้องเรียนรู้วิธีการนำพาประเทศ ซึ่งจนถึงตอนนี้เขาเพิ่งจะมีการสานต่อนโยบายต่างประเทศของผู้เป็นพ่อ
ส่วนกรณีการประกาศกลับประเทศของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ทางด้านของนายมาร์ค เอส โคแกน รองศาสตราจารย์ด้านการศึกษาสันติภาพและความขัดแย้งที่มหาวิทยาลัย Kansai Gaidai University ในโอซาก้าประเทศญี่ปุ่นได้ออกมาทวีตบนทวิตเตอร์ระบุตอนหนึ่งว่าเขาเน้นย้ำถึงบทความที่เขาเคยเขียนบนเว็บไซต์ Diplomat เมื่อเดือน พ.ค.ตอนหนึ่งระบุว่าอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ควรได้รับโทษที่ประเทศไทยหรือว่าได้รับการอภัยโทษ แต่ควรจะเข้าสู่การพิจารณาที่ศาลโลก ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เนื่องด้วยพฤติกรรมการละเมิดสิทธิมนุษยชนในภาคใต้ของไทย
ทวิตเตอร์ของนายมาร์ค เอส โคแกน
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับบทความของนายโคแกน เมื่อเดือน พ.ค. ระบุไว้ตอนหนึ่งว่าในอดีต ในช่วงที่นายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี หน่วยงานความมั่นคงของไทยซึ่งกํากับดูแลโดยนายทักษิณได้กระทําการละเมิดสนธิสัญญาระหว่างประเทศหลายมาตราโดยตรง รวมถึงกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 6 และ 9 ซึ่งรับประกันชีวิตและสิทธิเสรีภาพและความมั่นคงของบุคคล
โดยพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินของนายทักษิณซึ่งประกาศใช้กฎอัยการศึกอย่างเป็นทางการในภาคใต้ก็ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2540 ของประเทศไทย ทำให้เกิดเหตุรุนแรงและโหดร้ายต่อชาวมุสลิมในภาคใต้เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 11(6) ให้อํานาจอย่างกว้างขวางแก่นายทักษิณเพื่อจะ “กระทําการใด ๆ... ซึ่งจําเป็นต่อการรักษาความปลอดภัยของรัฐ”
ดังนั้นแนวร่วมพรรคการเมืองฝ่ายค้านของไทยควรจะมีมาตรฐานสูงกว่านี้มาก แต่กลับนิ่งเงียบในเรื่องเหล่านี้ทั้งพรรคเพื่อไทยที่แน่นอนว่าเคยมีสโลแกนว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” และพรรคก้าวไกล ซึ่งการกลับมาของนายทักษิณยังจะทำให้เกิดแนวโน้มของความตึงเครียดในภาคใต้เพิ่มเติมมากขึ้นและอาจจะทำให้ต้องหยุดการเจรจาของคู่ขัดแย้งก็เป็นได้
นายทักษิณจึงไม่สมควรที่จะกลับเมืองไทย ไม่ควรจะถูกใช้เป็นอาวุธโดยกลุ่มอนุรักษ์นิยมในไทย ไม่ควรที่จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากกลุ่มผู้ที่ให้การสนับสนุนมาอย่างยาวนาน ซึ่งแม้ในปัจจุบันประเทศไทยยังไม่ได้ให้สัตยาบันในธรรมนูญกรุงโรม แต่สถานที่ที่เหมาะที่สุดสำหรับนายทักษิณก็คือที่ห้องพิจารณาคดี ศาลอาญาระหว่างประเทศ ในกรุงเฮก
เรียบเรียงจาก:https://thediplomat.com/2023/05/thailand-particularly-the-deep-south-needs-a-final-reckoning-with-thaksin/,https://www.thejakartapost.com/paper/2023/07/26/aseans-ailing-democracy.html