ปิด 3 บริษัทเครือข่าย ทุน มิน ลัต หลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรตะวันตก ชี้หนึ่งในบริษัทที่ถูกปิดมีผู้ก่อตั้งเป็นลูกสาว 'มิน อ่อง หล่าย' ด้าน NGO จี้ทางการไทยยึดทรัพย์ลูกมินอ่องหล่ายให้หมดพร้อมดำเนินมาตรการป้องกันเครือข่ายทหารซื้อทรัพย์สินในไทย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความเคลื่อนไหวในประเทศเมียนมาที่เกี่ยวกับประเทศไทยว่าบริษัทสามแห่งที่มีเจ้าของเป็นพ่อค้าอาวุธชาวเมียนมาซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกของพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำเผด็จการทหารเมียนมาได้ปิดตัวลงแล้ว ตามการรายงานของสื่อของเผด็จการทหาร
โดยบริษัทที่ถูกปิดตัวได้แก่บริษัท บริษัท สตาร์ แซฟไฟร์ ฟีนิกซ์ จํากัด, บริษัท สตาร์ แซฟไฟร์ ดราก้อน จํากัด และบริษัท รอยัล มอว์ตอง ไมนิ่ง จํากัด
ทั้งสามบริษัทที่ถูกกล่าวถึงมานั้นพบว่าเป็นบริษัทย่อยของบริษัท สตาร์แซฟไฟร์กรุ๊ป ซึ่งมีเจ้าของได้แก่นายทุนมินลัต พ่อค้าอาวุธที่มีส่วนค้าอาวุธให้กับเผด็จการทหารเมียนมา ซึ่งถูกจับกุมตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ด้วยข้อหาค้ายาเสพติดและข้อหาฟอกเงิน
มีรายงานจากแหล่งข่าวระบุว่าสตาร์แซฟไฟร์กรุ๊ปได้ร่วมทุนกับกลุ่มรัฐวิสาหกิจของทหารสองแห่งของประเทศ ได้แก่ Myanma Economic Holdings Ltd (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation (MEC) นอกจากนี้ยังได้เป็นนายหน้านําเข้าโดรนลาดตระเวนของอิสราเอลและชิ้นส่วนเครื่องบินสําหรับกองทัพอากาศเมียนมา
สำหรับนายทุนมินลัตในวัย 53 ปี นั้นถูกจับกุมพร้อมกับบุคคลสัญชาติไทยอีกสามรายเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา โดยพวกเขาก็ถูกตั้งข้อหาค้ายาเสพติดและฟอกเงินเช่นเดียวกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยสามารถยึดของกลางได้เป็นยาเสพติดมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ
ทางด้านของนาง หม่า ยาดานาร์ หม่อง จากกลุ่ม Justice For Myanmar อันเป็นกลุ่มรณรงค์เพื่อความยุติธรรมและความรับผิดในเมียนมากล่าวว่าการที่บริษัทเหล่านี้ปิดกิจการนั้นเป็นความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกซึ่งยังไม่ครอบคลุมไปถึงเครือข่ายและบุคคลของสตาร์แซฟไฟร์ทั้งหมด
“มีความเป็นไปได้ว่าธุรกิจของพวกเขามีปัญหาเนื่องจากการคว่ำบาตรและข้อกล่าวหาทางอาญาต่อนายทุน มิน ลัตและผู้ร่วมงานของเขาซึ่งนี่ทําร้ายธุรกิจโดยรวมของสตาร์แซฟไฟร์ สิ่งที่สําคัญตอนนี้คือทุกฝ่ายต้องคอยเฝ้าระวัง และดำเนินการกดดันต่อสตาร์แซฟไฟร์กรุ๊ป และกลุ่มบริษัทและนายหน้าค้าอาวุธอื่น ๆ ทั้งหมดรวมถึงร่วมดำเนินการคว่ำบาตรด้วยการประสานงานกับเครือข่ายทั้งหมด” นางหม่องกล่าว
โดยทางการสหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการคว่ำบาตรต่อสตาร์แซฟไฟร์กรุ๊ป,สตาร์แซฟไฟร์เทรดดิ้ง,สตาร์แซฟไฟร์ จำกัด รวมไปถึงเจ้าของบริษัทจำนวนสองรายได้แก่นายทุน มิน ลัต และภรรยาคือนางวิน มิน โซ ในช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ส่วนสหราชอาณาจักรได้ดำเนินการคว่ำบาตรต่อ สตาร์แซฟไฟร์กรุ๊ปในเดือนสิงหาคม 2565
สำหรับสํานักงานใหญ่ของ บริษัท สตาร์ แซฟไฟร์ ฟีนิกซ์ จํากัด ตั้งอยู่ในเขตบาฮาน (Bahan) ของเมืองย่างกุ้งตามรายงานของหนังสือพิมพ์ อีกสองบริษัทที่ถูกปิดมีสํานักงานใหญ่อยู่ที่เขตออตตาราธิรี กรุงเนปิดอ ในประกาศระบุว่า สตาร์ แซฟไฟร์ ฟีนิกซ์ ถูกปิดในวันที่ 16 มิถุนายน บริษัท รอยัล มอว์ตอง ไมนิ่ง จํากัด ถูกปิดในวันที่ 2 มิถุนายน และ บริษัท สตาร์ แซฟไฟร์ ดราก้อน จํากัด ถูกปิดในวันที่ 9 มิถุนายน
โดยในบรรดากรรมการผู้ถือหุ้นของบริษัทเหล่านี้พบว่ามีนางวินมินโซ และนายเท็ต อัง ลูกชายของพลจัตวาซิน เยาว ที่เกษียณอายุไปแล้ว
มีรายงานว่าลูกสาวของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ซึ่งก็คือนางขิ่น ธิรี เทต มอญ นั้นยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท รอยัล มอว์ตอง ไมนิ่ง จํากัด ซึ่งบริษัทนี้นั้นมีชื่อเดิมว่า Star Thiri Investment แต่เธอได้ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการไปในปี 2563
ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของนายทุน มิน ลัต กับครอบครัวของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้นํารัฐบาลทหารเมียนมาถูกเปิดเผยเมื่อตํารวจไทยพบสมุดบัญชีธนาคารและโฉนดที่ดินของคอนโดมิเนียมหรูที่นายขิ่น ธิรี เทต มอญ และนางออง พเย ซอน น้องชายของเธอเป็นเจ้าของ และทั้งสองคนยังถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ และแคนาดา
ต่อมาในช่วงเดือน เม.ย. พล.อ.มิน อ่อง หล่ายได้ติดต่อไปหาทางการไทยด้วยตัวเอง เพื่อเรียกร้องให้ถอนข้อหาลูกสาวของเขาที่มีส่วนในคดีทุน มิน ลัต
ขณะที่องค์กร Justice for Myanmar ได้เรียกร้องให้ทางการไทยดำเนินการยึดทรัพย์สินของลูกสาวและลูกชายของมิน อ่อง หล่าย และสืบสวนว่าพวกเขาได้รับประโยชน์จากเงินที่ได้จากอาชญากรรมหรือไม่ พร้อมกับปิดกั้นสมาชิกรัฐบาลทหาร ครอบครัว และผู้สนับสนุนไม่ให้เข้าถึงธนาคารไทยและซื้อสินทรัพย์ในประเทศไทย
เรียบเรียงจาก:https://www.irrawaddy.com/news/burma/myanmar-military-linked-group-closes-companies-amid-sanctions-owners-thailand-arrest.html