UN จัดไทยติดอันดับ 43 ดัชนีการพัฒนาอย่างยั่งยืน คิดเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน พบด้านการขจัดความยากจน มีการเดินหน้าพัฒนาเป็นไปตามผลสัมฤทธิ์ แต่ยังถดถอยเรื่องการฟื้นฟูระบบนิเวศบนบก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมาองค์การสหประชาชาติหรือว่ายูเอ็นได้มีการจัดทำดัชนีว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหรือที่เรียกกันว่า SDGs Index เพื่อจัดอันดับประเทศจำนวนกว่า 193 ประเทศ
โดยพบว่าประเทศไทยนั้นอยู่ในอันดับที่ 43 และอยู่ในอันดับหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือว่าอาเซียน ได้คะแนนโดยรวมทั้งสิ้น 74.7 คะแนน
สำหรับในรายละเอียดปลีกย่อยของเป้าหมายในทั้ง 17 เป้าหายของประเทศไทยนั้นพบว่า 1.ในด้านเป้าหมายขจัดความยากจน พบว่าประเทศไทยยังเดินหน้าพัฒนา เป็นไปตามผลสัมฤทธิ์ของ SDG
2.ในเรื่องการขจัดความหิวโหยพบว่ายังคงหยุดนิ่ง โดยยังมีความท้าทายขนาดใหญ่ปรากฎอยู่
3.ในเรื่องการพัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี พบว่ายังคงค่อยๆพัฒนาอย่างช้าๆ แต่ยังมีความท้าทายขนาดใหญ่ปรากฏอยู่
4.ในเรื่องการศึกษาที่มีคุณภาพ พบว่าประเทศไทยยังคงค่อยๆพัฒนาไปอย่างช้าๆ แต่เป็นไปตามผลสัมฤทธิ์ของ SDG
5. ในเรื่องความเท่าเทียมระหว่างเพศ พบว่าไทยยังค่อยๆพัฒนาอย่างช้าๆ แต่ยังมีความท้าทายที่เป็นนัยยะสำคัญปรากฏอยู่
6.ในเรื่องการเข้าถึงน้ำสะอาดและสุขอนามัยที่ดี พบว่าไทยยังคงเดินหน้าพัฒนา แต่ยังมีความท้าทายที่เป็นนัยยะสำคัญปรากฏอยู่
7.ในเรื่องการเข้าถึงพลังงานที่สะอาดและราคาถูก พบว่าไทยยังคงเดินหน้าพัฒนา แต่ยังมีความท้าทายที่เป็นนัยยะสำคัญปรากฏอยู่
8.ในเรื่องการจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ พบว่ายังคงหยุดนิ่ง และมีความท้าทายที่มีนัยยะสำคัญปรากฏอยู่
9.ในเรื่องของนวัตกรรมทางอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน พบว่าไทยยังค่อยๆพัฒนาอย่างช้าๆ แต่ยังมีความท้าทายที่เป็นนัยยะสำคัญปรากฏอยู่
10.ในเรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำ พบว่าไทยยังคงหยุดนิ่ง และมีความท้าทายที่มีนัยยะสำคัญปรากฏอยู่
11.ในเรื่องของการทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความปลอดภัย พบว่าไทยยังค่อยๆพัฒนาอย่างช้าๆ แต่ยังมีความท้าทายที่เป็นนัยยะสำคัญปรากฏอยู่
12.ในเรื่องของการผลิตและการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ พบว่าไทยยังค่อยๆพัฒนาอย่างช้าๆ แต่ยังมีความท้าทายที่เป็นนัยยะสำคัญปรากฏอยู่
13.ในเรื่องของการดำเนินการเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ พบว่าไทยยังคงหยุดนิ่ง และมีความท้าทายที่มีนัยยะสำคัญปรากฎอยู่
14.ในเรื่องของการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์มหาสมุทรและทรัพยากรทะเลอย่างยั่งยืน พบว่าไทยยังคงหยุดนิ่ง และยังมีความท้าทายขนาดใหญ่ปรากฏอยู่
15.ในเรื่องของการปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน พบว่าไทยอยู่ในภาวะถดถอย อีกทั้งมีความท้าทายขนาดใหญ่ปรากฏอยู่
16.ในเรื่องของการมีสังคมสงบสุข ยุติธรรม ไม่แบ่งแยก พบว่าไทยยังคงหยุดนิ่ง อีกทั้งยังมีความท้าทายขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ และ
17.ในเรื่องของความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน พบว่าไทยยังคงหยุดนิ่ง อีกทั้งมีความท้าทายที่มีนัยยะสำคัญปรากฎอยู่
สำหรับอันดับของประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือว่าอาเซียน พบว่าประเทศเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 55 ประเทศสิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 64 ประเทศอินโดนีเซียอยู่ในอันดับที่ 75 ประเทศมาเลเซียอยู่ในอันดับที่ 78 ประเทศฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับที่ 98 ประเทศบรูไนอยู่ในอันดับที่ 102 ประเทศกัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 103 ประเทศลาวอยู่ในอันดับที่ 115 และประเทศเมียนมาอยู่ในอันดับที่ 125หรือก็คือรั้งท้ายอาเซียน
ส่วนประเทศที่ได้อันดับหนึ่งได้แก่ประเทศฟินแลนด์ และประเทศที่รั้งท้ายในอันดับที่ 166 ได้แก่ประเทศซูดานใต้ ส่วนประเทศอื่นๆนั้นยังไม่มีข้อมูล
เรียบเรียงจาก:https://s3.amazonaws.com/sustainabledevelopment.report/2023/2023-sustainable-development-report.pdf