ผู้ว่าฯ โคราช มีคำสั่งให้ 'บรรเจิด สอพิมาย' พ้นตำแหน่งนายกอบต.ในเมืองแล้ว หลังโดน ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีจัดซื้อจ้างด้วย ส่วนกรณีร่ำรวยผิดปกติ เรื่องถึงนายอำเภอพิมายแล้ว แจ้งให้ดำเนินการตามขั้นตอนกม. ไม่ต้องตั้งคกก.สอบสวนซ้ำ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าคืบหน้ากรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้ออกคำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการร่ำรวยผิดปกติ รวมมูลค่า 73,062,271.36 บาท ของนายบรรเจิด สอพิมาย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เอาไว้ในระหว่างดำเนินคดี เพื่อมิให้มีการโอน ยักย้ายแปร สภาพหรือซุกซ่อนทรัพย์สินเกี่ยวกับการร่ำรวยผิดปกติ เช่น บัญชีเงินฝาก ห้องชุด รถยนต์ โฉนดที่ดิน ทั้งที่อยู่ในชื่อตนเองและคนใกล้ชิด
พร้อมให้ส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน และให้ส่งคำวินิจฉัยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้มีอำนาจสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง เพื่อสั่งให้พ้นจากตำแหน่งภายในหกสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง และให้ถือว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง และวรรคห้า ต่อไป
- มีอะไรบ้าง? ทรัพย์สิน 73 ล.'บรรเจิด' นายกอบต.ในเมือง ป.ป.ช.สั่งยึดอายัดคดีรวยผิดปกติ
- ป.ป.ช.สั่งยึดอายัดทรัพย์ 73 ล. 'บรรเจิด สอพิมาย' นายกอบต.ในเมือง โคราช คดีร่ำรวยผิดปกติl
- ขอหารือก่อน! ผู้ว่าฯโคราช แจ้ง ปธ.ป.ป.ช.ยังไม่สั่ง 'บรรเจิด' พ้นตำแหน่งโดนคดีร่ำรวย
ล่าสุด แหล่งข่าวจากจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า ขณะนี้ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มีหนังสือถึง นายอำเภอพิมาย แจ้งเรื่องขอให้ นายบรรเจิด สอพิมาย นายกอบต.ในเมือง พ้นจากตำแหน่ง จากกรณีถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกรณีร่ำรวยผิดปกติแล้ว
โดยหนังสือระบุว่า ด้วยจังหวัดนครราชสีมาได้รับแจ้งจากสำนักงาน ป.ป.ช. ขอให้สั่งให้นายบรรเจิด สอพิมาย องค์การบริหารส่วนตำบลในเมือง อำเภอพิมาย พ้นจากตำแหน่งกรณีร่ำรวยผิดปกติ และถือให้ว่ากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122
จังหวัดนครราชสีมาพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122 ประกอบหนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ลับ ด่วนที่สุด ที่ มท 0804.3/1195 ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 เรื่อง หารือการสั่งให้พ้นจากตำแหน่งกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติขี้มูลว่ามีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ จึงส่งรายงานการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้นายอำเภอพิมาย พิจารณาตามฐานความผิดตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติโดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยใช้สำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นสำนวนการสอบสวนแล้ว ทำความเห็นรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาพิจารณาและสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 90/1 และมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537
แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2566
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้พยายามติดต่อ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ นายจิรัฏฐไชย จี่พิมาย นายอำเภอพิมาย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้
อย่างไรก็ดี จากการสอบถาม นายวิเชียร พลีดี ปลัด อบต.ในเมือง ได้รับการยืนยันว่า เกี่ยวกับคดีร่ำรวยผิดปกติ ที่มีการแจ้งให้ นายบรรเจิด สอพิมาย พ้นจากตำแหน่ง นายก อบต.นั้น ทราบว่า เรื่องอยู่ที่นายอำเภอพิมายแล้ว แต่ไม่ทราบรายละเอียด ต้องไปตามเรื่องที่อำเภออีกครั้ง
เมื่อถามว่า ปัจจุบัน นายบรรเจิด สอพิมาย ยังปฏิบัติหน้าที่นายก อบต.ในเมือง อยู่หรือไม่
นายวิเชียร พลีดี ปลัด อบต.ในเมือง กล่าวว่า ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่แล้ว นายบรรเจิด ถูกผู้ว่าฯ นครราชสีมา มีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2566 เป็นเรื่องเกี่ยวกับคดีการจัดซื้อจัดจ้างในอบต. ซึ่งเป็นอีกคดีหนึ่งที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ส่วน นายกฯ อบต. คนใหม่ กำลังจะมีการจัดเลือกตั้งใหม่ เร็วๆ นี้
อนึ่ง การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหา ยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้อีก