ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน 'มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์' กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ทรัพย์สินกว่า 184 ล้าน ทีมีดินและบ้านใน จ.นนทบุรี สะสมพระเครื่อง-พระทองคำ รายได้ 4.3 ล./ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2566
โดย นายมงคลกิตติ์ พร้อมด้วย น.ส.พัทธนันท์ ฤทธิ์ชัยเรืองเดช คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 184,916,065 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 20,828,078 บาท
นายมงคลกิตติ์ แจ้งมีทรัพย์สิน 168,635,141 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 57,132 บาท เงินลงทุน 100 บาท เงินให้กู้ยืม 5,749,500 บาท จำนวน 2 ราย
ที่ดิน 2 แปลง 9,725,000 บาท เป็นที่ดินใน จ.นนทบุรี โรงเรียนและสิ่งปลูกสร้าง 2 รายการ 4,275,000 บาท เป็นบ้าน 2 หลังใน จ.นนทบุรี
ยานพาหนะ 1,100,000 บาท เป็นรถยนต์ 1 คัน สิทธิและสัมปทาน 65,409 บาท และทรัพย์สินอื่น 147,663,000 บาท หนี้สิน 11,943,578 บาท เป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น
ส่วน น.ส.พัทธนันท์ แจ้งมีทรัพย์สิน 16,260,082 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 40,455 บาท เงินลงทุน 43,263 บาท
ที่ดิน 4 แปลง 10,847,000 บาท เป็นที่ดินใน จ.ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบูรณ์ นนทบุรี โรงเรียนและสิ่งปลูกสร้าง 1 รายการ 1,850,000 บาท เป็นบ้าน 1 หลังใน จ.นนทบุรี ยานพาหนะ 2,450,000 บาท เป็นรถยนต์ คัน
สิทธิและสัมปทาน 109,363 บาท เป็นรถยนต์ 2 คัน และทรัพย์สินอื่น 920,000 บาท หนี้สิน 8,881,499 บาท เป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีทรัพย์สิน 20,841 บาท เป็นเงินฝาก และสิทธิและสัมปทาน
ขณะที่ทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจของนายมงคลกิตติ์ เช่น พระกริ่งปวเรศทองคำ น้ำหนัก 3 บาท 50,000,000 บาท พระร่วงหลังรางปืนพร้อมทองคำ น้ำหนัก 2 บาท 12,000,000 บาท พระสมเด็จไกรเซอร์เลี่ยมทอง น้ำหนัก 2 บาท 30,000,000 บาท พระพุทธชินราชใบเสมา พร้อมทอง น้ำหนัก 2 บาท 2,540,000 บาท พระสมเด็จวัดระฆัง พร้อมทอง น้ำหนัก 1 บาท 40,020,000 บาท พระรอดลำพูนเลี่ยมทอง น้ำหนัก 1 บาท 10,020,000 บาท พระคงลำพูน เลี่ยมทอง 1 บาท 320,000 บาท เป็นต้น
ส่วนทรัพย์สินอื่นของคู่สมรส เช่น สร้อยคอทองคำ 8 เส้น 160,000 บาท สร้อยข้อมือ 5 เส้น 100,000 บาท เหรียญกษาปณ์และธนบัตรโบราณ 500,000 บาท และสุนัขพันธุ์บีเกิล 2 ตัว 25,000 บาท เป็นต้น
ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ แจ้งมีรายได้ต่อปี 4,378,720 บาท เป็นเงินเดือน 1,362,720 บาท เบี้ยประชุม 176,000 บาท รายได้จากรถยนต์ 600,000 บาท รายได้จากบิดา 2,000,000 บาท ระบุ ขอยามหมุนเงินไม่ทัน และรายได้อื่น ๆ 240,000 บาท ส่วนรายจ่ายต่อปี
น.ส.พัทธนันท์ คู่สมรส แจ้งมีรายได้ต่อปี 2,980,000 บาท 3,867,200 บาท และรายจ่ายต่อปี 1,212,000 บาท
นายมงคลกิตติ์ แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 1,362,720 บาท
น.ส.พัทธนันท์ แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 480,000 บาท
นายมงคลกิตติ์ เคยเป็น เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ และเป็นอดีตอาจารย์โรงเรียนจิตรลดา