เผยความคืบหน้าคดีชี้มูลความผิด 'บุญช่วย วงศ์สิทธิการ' อดีตนายกเทศมนตรีช่องแค นครสวรรค์ นำรถหอน้ำดับเพลิงที่รับมอบจากสตช. ไปจอดไว้ยังสถานที่เอกชนเป็นเหตุให้ชำรุดเสียหายไม่สามารถใช้งานได้ ล่าสุด อสส.เห็นควรไม่ฎีกาสู้คดีต่อแล้ว หลังศาลอุทธรณ์ แก้โทษให้จำคุก 8 เดือน จาก 1 ปี แต่ไม่รอลงอาญา ชี้เป็นการใช้ดุลพินิจในการลงโทษที่เหมาะสมแล้ว-รวมยกฟ้องพวก 3 ราย มี บ. เชสเอ็นเตอร์ไพรส์ฯ ด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายบุญช่วย วงศ์สิทธิการ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลช่องแค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ กับพวก 3 ราย คือ นายกิตติพงศ์ หรือ อภิชัจ คลังชำนาญ บริษัท เชสเอ็นเตอร์ไพรส์ (สยาม) จำกัด และ นายเจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ กรณีนำรถหอน้ำดับเพลิงที่รับมอบจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไปจอดไว้ยังสถานที่ของเอกชน เป็นเหตุให้รถชำรุดเสียหายไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 , 151 และ 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561
โดยเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้คำพิพากษา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จากที่พิพากษาว่า นายบุญช่วย วงศ์สิทธิการ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 157 ลงโทษ จำคุก 3 ปี และปรับ 20,000 บาท ไม่ปรากฎว่าจำเลยที่ 1 เคยต้องโทษจำคุก มาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ส่วน นายกิตติพงศ์ หรือ อภิชัจ คลังชำนาญ จำเลยที่ 2 บริษัท เชสเอ็นเตอร์ไพรส์ (สยาม) จำกัด จำเลยที่ 3 และนายเจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ จำเลยที่ 4 ศาลฯ ให้ยกฟ้อง
แก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุก นายบุญช่วย วงศ์สิทธิการ จำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี จำเลยให้ถ้อยคำต่ออนุกรรมการ ป.ป.ช. และเบิกความต่อศาลเป็นประโยชน์ แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามมาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 8 เดือน ไม่ลงโทษปรับและไม่รอการลงโทษให้จำเลยที่ 1 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ขณะที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 มีมติไม่เห็นชอบด้วยในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) ไม่ฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์
ล่าสุด แหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า เกี่ยวกับคดีนี้ อัยการสูงสุด (อสส.)มีความเห็นที่จะไม่ฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ไปแล้ว เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าการลงโทษนายบุญช่วย วงศ์สิทธิการ จำเลยที่ 1 ตามที่โจทก์อุทธรณ์เป็นการใช้ดุลพินิจ ในการลงโทษที่เหมาะสมแล้ว
ส่วนกรณีนายกิตติพงศ์ หรือ อภิชัจ คลังชำนาญ จำเลยที่ 2 บริษัท เชสเอ็นเตอร์ไพรส์ (สยาม) จำกัด จำเลยที่ 3 และนายเจษฎา เดชสกุลฤทธิ์ จำเลยที่ 4 ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับคําพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษายกฟ้อง จึงต้องห้ามฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงและไม่เป็นปัญหาสําคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด
จึงไม่มีเหตุที่จะฎีกาคดีนี้ต่อไป จึงไม่ฎีกาคดีนี้