เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา สิทธิชัย กอสุระ 'พวก' อดีตนายก อบต.บึงงาม ร้อยเอ็ด เรียกรับเงินช่วยบรรจุ-จ่ายโบนัส พนง.โดยมิชอบ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน แต่รอลงอาญา - ป.ป.ช.ขอ อสส.อุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นางนงเยาว์ วรรณคำ หรือจิตรเอื้อ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บึงงาม อำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด กับพวก เรียกรับเงินหรือทรัพย์สินเพื่อช่วยเหลือบุคคลให้เข้าบรรจุเป็นพนักงานจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลบึงงาม เมื่อปี พ.ศ.2552-2553 และเรียกรับเงินจากพนักงานขององค์การบริหารส่วนตำบลบึงงามที่ได้รับเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ (โบนัส) ประจำปีงบประมาณ 2552 โดยมิชอบ
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148,149 และ 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564
ในส่วน นายสิทธิชัย กอสุระ ที่ปรากฏชื่อเป็นจำเลย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า นายสิทธิชัย กอสุระ จำเลยมีความผิดตามมาตรา 148
จำคุก 5 ปี และปรับ 40,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน และปรับ 20,000 บาท และโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นควรมีหนังสือขอความอนุเคราะห์อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อพิจารณาอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ