ป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน 'ชลน่าน ศรีแก้ว' กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ทรัพย์สินกว่า 560 ล้าน มีที่ดินและตึก 3 ชั้นที่ จ.น่าน สะสมสร้อยทองคำ-แหวนหยกล้อมเพชร-พระเครื่อง รายได้ 1.7 ล./ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของ นายชลน่าน ศรีแก้ว กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.จ.น่าน พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566
โดย นายชลน่าน พร้อมด้วย น.ส.นวลสกุล บำรุงพงษ์ ผู้อยู่กินกันฉันสามีภริยา และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 560,855,277 บาท มีหนี้สิน 602,902 บาท
นายชลน่าน แจ้งมีทรัพย์สิน 9,618,264 บาท ประกอบด้วย เงินสด 40,000 บาท เงินฝาก 443,264 บาท ทั้งหมด 1 บัญชี ที่ดิน 2 แปลง 2,000,000 บาท เป็นที่ดินใน อ.เวียงสา จ.น่าน
โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 รายการ 3,000,000 บาท เป็นตึก 3 ชั้น 2 หลังที่ อ.เวียงสา จ.น่าน และทรัพย์สินอื่น 4,135,000 บาท ส่วนหนี้สิน 602,902 บาท เป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น
ส่วน น.ส.นวลสกุล แจ้งมีทรัพย์สิน 550,849,557 บาท ประกอบด้วย เงินสด 1,800,000 บาท เงินฝาก 1,700,330 บาท ทั้งหมด 17 บัญชี ที่ดิน 18 แปลง 501,339,338 บาท อาทิ ที่ดินใน จ.นครราชสีมา-ลำพูน-สระบุรี-เชียงใหม่-ปทุมธานี
โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 6 รายการ 18,600,000 บาท อาทิ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 2 หลังที่ จ.ปทุมธานี บ้านชั้นเดียว 1 หลัง ที่ จ.นครราชสีมา ห้องชุด 1 ห้อง และโฉนดที่ดิน 2 รายการ ที่สายลมคอนโด เขตหลักสี่ กทม. ยานพาหนะ 5,750,000 บาท เป็นรถยนต์ 4 คัน อาทิ Benz E280, Benz C180 coupe, Benz GLC 250d, BMW X3 และทรัพย์สินอื่น 21,659,889 บาท
ขณะที่บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีทรัพย์สิน 387,455 บาท ประกอบด้วย เงินสด 6,000 บาท เงินฝาก 81,455 บาท ทั้งหมด 2 บัญชี และที่ดิน 1 แปลง 300,000 บาท เป็นที่ดินใน อ.เวียงสา จ.น่าน
ขณะที่ทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจของนายชลน่าน อาทิ แหวนหยกล้อมเพชร 1 รายการ 110,000 บาท นาฬิกา Rolex submariner date 1 รายการ 225,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 รายการ 60,000 บาท พระเครื่อง 8 รายการ 3,710,000 บาท กำไลข้อมือพิ้งค์โกลด์ 30,000 บาท
ส่วนของ น.ส.นวลสกุล อาทิ เมฆสิทธิ์หลวงพ่อทับวัดอนงค์สีเขียวทอง 1 รายการ ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ แหวนเพชรตาแมวโบราณสีมรกต 1 รายการ ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ กระเป๋า Hermes และอุปกรณ์ตกแต่ง รวม 25 รายการ 6,098,000 บาท กระเป๋าแบรนด์เนมอื่น ๆ Chanel etc. รวม 45 รายการ 5,970,000 บาท เครื่องประดับแบรนด์เนม 70 รายการ 2,219,000 บาท เครื่องประดับทองคำและเพชร 81 รายการ 5,912,889 บาท รองเท้าแบรนด์เนม 51 รายการ 710,000 บาท และผ้าซิ่นน่านนางพญาคำเคิบ/ซิ่นไหมฯ 160 รายการ 750,000 บาท
นายชลน่าน แจ้งมีรายได้ต่อปี 1,796,255 บาท ประกอบด้วย เงินเดือน 1,388,880 บาท เบี้ยประชุม กมธ/อนุกมธ 96,975 บาท เบี้ยประชุมผู้นำฝ่ายค้าน 310,400 บาท ส่วนรายจ่ายต่อปี 580,000 บาท
น.ส.นวลสกุล แจ้วมีรายได้ต่อปี 45,562,750 บาท เป็นเงินเดือน 180,000 บาท และขายที่ดิน 5 แปลง เมื่อปี 2564 45,382,750 บาท ส่วนรายจ่ายต่อปี 5,386,532 บาท
ขณะที่บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีรายได้ต่อปี 300,000 บาท เป็นรายได้จากรับให้ที่ดิน ส่วนรายจ่ายต่อปี 200,000 บาท
นายชลน่าน แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 1,389,512 บาท
น.ส.นวลสกุล แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 180,000 บาท
นพ.ชลน่าน แจ้งข้อมูลกับ ป.ป.ช. ว่า เป็น ส.ส.น่าน ปี 2550 และเป็น รมช.สาธารณสุข ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรปี 2564 และเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค. 2564 จนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน นายชลน่าน กำลังมีกรณีวิวาทะ กับ น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยสร้างไทย สืบเนื่องจากการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) รวม 8 พรรคการเมือง เพื่อจัดตั้งรัฐบาล นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปรากฏว่า น.ต.ศิธา ทิวารี ซึ่งนั่งอยู่ในกลุ่มสื่อมวลชน ได้เรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลลงนามเอ็มโอยูแอดวานซ์ แม้จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็ต้องเป็นฝ่ายค้านร่วมกันตลอดไป ประเด็นดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นทำให้นายชลน่าน ศรีแก้ว แสดงความไม่พอใจ โดยระบุว่า น.ต.ศิธาเสียมารมาท และตอบโต้กันไปมาอย่างต่อเนื่อง จน นายชลน่าน ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า 'ผมเดือด ผมมีอารมณ์ ถ้าชกได้ ผมชกไปแล้ว'