พิธานำ 8 พรรคร่วมแถลงแสดงจุดยืนเห็นชอบโหวต 'พิธา' เป็นนายกรัฐมนตรี เผย 22 พ.ค. เตรียมแถลงเนื้อหา MOU จัดตั้งรัฐบาล แจงปมแก้ 112 ต้องหารือกันระหว่างพรรคร่วมกัน ยันไม่กังวลคดีแต่ก็ไม่ประมาท ยินดีเริ่มมี ส.ว.เห็นชอบโหวต 'พิธา' เป็นนายกฯ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมโอกุระ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้นำตัวแทนพรรคผู้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้แก่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม, นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ และนายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง ร่วมกันแถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน
โดยนายพิธาได้กล่าวสาระสำคัญว่า จากการพูดคุยกันในทุกพรรคแล้ว ทั้ง 8 พรรคร่วมได้มีความเห็นชอบร่วมกันว่าจะให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกรัฐมนตรี โดยท่าทีหลังจากนี้นั้นในวันที่ 22 พ.ค. ทางพรรคร่วมจะได้ร่วมกันแถลงข่าวอีกทีหนึ่งว่าเนื้อหาของข้อตกลงร่วมกันหรือที่เรียกว่า MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลนั้นจะเป็นอย่างไร นอกจากนี้พรรคการเมืองทั้ง 8 พรรคนั้นจะได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกันเพื่อทำให้การเปลี่ยนผ่านอำนาจนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น
นายพิธากล่าวต่อไปว่าตอนนี้มีความมั่นใจว่าจำนวนเสียงที่จะโหวตในรัฐสภาเพื่อให้การสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นมีเพียงพอแล้ว ไม่มีความกังวลแต่อย่างใด เช่นเดียวกับกรณีคดีต่างๆที่เผชิญก็ไม่มีความกังวลเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ไม่ประมาทในเรื่องเหล่านี้ เพราะการเตรียมตัวก็สำคัญ เป็นบุคคลสาธารณะ ก็ต้องยอมรับการตรวจสอบ
เมื่อถามถึงกรณีพูดคุย การต่อรองกันเรื่องกระทรวง นายพิธากล่าวว่า "มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตามต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นแค่เรื่องที่ปลายเหตุ เราต้องมาดูที่การทำงานกันก่อน"
เมื่อถามต่อไปถึงกรณีท่าทีการแก้ไขมาตรา 112 นายพิธากล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้มีการโต้วาทีและถกเถียงกันมาบ่อยแล้ว ซึ่งกระบวนการจะปรับแก้ไขในกฎหมายมาตรา 112 นั้นคงต้องมีการหารือกันในระหว่างพรรคร่วมอีกทีหนึ่ง
เมื่อถามถึงกรณีที่เสียงของสมาชิกวุฒิสภาที่บางส่วนเริ่มจะแตก โดยบางส่วนนั้นเห็นชอบว่าจะสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีและบางส่วนบอกว่างดออกเสียง นายพิธากล่าวว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ต้องขอขอบคุณที่ตัดสินใจ เป็นเรื่องระบบ ไม่ใช่ของผม ที่ได้เห็นประชาธิปไตยที่ประชาชนมีอำนาจสูงสุด.