ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ บช.น. ภ1-9 และ คณะทำงานขับเคลื่อนโยบาย ศจร.ตร. ออกใบสั่ง-ลงข้อมูลในระบบ PTM ทุกครั้ง/ทุกขั้นตอน พร้อมจัด จนท.ตร. ไปประจำที่สำนักงานขนส่งทุกจังหวัด ตามความร่วมมือ ตร.-ขนส่ง เน้นย้ำค้างชำระค่าปรับจราจร ต่อภาษีได้แค่ใบแทน ป้ายจริงรับได้หลังจ่ายค่าปรับ ครบ 30 วัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มีหนังสือคำสั่งด่วนที่สุด ถึงผู้รับปฎิบัติ ผบช.น.ภ1-9 ก. และ สยศ.ตร. หัวหน้าคณะทำงานเทคโนโลยีบังคับใช้กฎหมาย ส่วนขับเคลื่อนนโยบาย ศจร.ตร. ด้วย ตร. และกรมการขนส่งทางบก ระบุว่าได้เริ่มใช้มาตรการชะลอการออกป้ายภาษีสำหรับรถที่มีใบค้างชำระ ตามมาตรา 141/1 แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 และตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจร ระหว่าง ตร. กับกรมการขนส่งทางบก โดยจะใช้กับการออกใบสั่งจราจรสำหรับการกระทำผิด ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2566 เป็นต้นมา
หลักการดังกล่าวกำหนดว่า เมื่อประชาชนไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี นายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก จะต้องตรวจสอบว่ารถคันดังกล่าว มีใบสั่งค้างชำระหรือไม่ หากมีใบสั่งค้างชำระ จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในมาตรา 141/1 (แม้นายทะเบียนจะรับชำระประจำปี แต่จะยังไม่ออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีให้ แต่จะออกหลักฐานชั่วคราวให้แทนซึ่งมีระยะเวลา 30 วัน)
โดยการตรวจสอบข้อมูลใบค้างชำระ จะดำเนินการส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานผ่านระบบ PTM และจะมีการส่งผลต่อชั้นตอนการบันทึกคะแนนสำหรับผู้มีใบสั่งค้างชำระตามระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565
ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปตามระเบียบ ข้อกฎหมาย และสอดคล้องกับข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง ตร. และกรมการขนส่งทางบกดังกล่าว จึงกำหนดออกแนวปฎิบัติให้ บช.น.ภ.1-9 ก. และคณะคณะทำงานเทคโนโลยีบังคับใช้กฎหมาย ส่วนขับเคลื่อนนโยบาย ศจร.ตร. ดำเนินการ ดังนี้
1.การออกใบสั่งและลงข้อมูลในระบบ PTM โดยให้ทุกหน่วยกำชับการปฎิบัติของเจ้าพนักงานจราจรทุกนาย ในการออกคำสั่งจราจรทุกรูปแบบ และการออกหนังสือแจ้งการไม่ปฏิบัติตามใบสั่ง (หนังสือเตือน) ต้องบันทึกลงในระบบ PTM ทุกขั้นตอน และเมื่อส่งใบสั่งแล้ว ต้องบันทึกวันในการส่งไปรษณีย์ในระบบ PTM ด้วยทุกครั้ง
2.การจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประจำที่ทำงานสำนักงานขนส่ง กทม. และขนส่งจังหวัด โดยข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว กำหนดให้ ตร.จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประจำหน่วยงานของกรมการขนส่งทางบก ที่รับชำระภาษีรถประจำปีทุกแห่งในระยะ 3 เดือนแรก ในวันทำการระหว่าง 7.30 น.-16 30 น. โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. 2566 - 18 พ.ค. 2566 เพื่อตอบปัญหาข้อซักถามของประชาชนและแนวทางปฎิบัติของเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก จึงให้ บช.น. ภ1-9 ดำเนินการดังนี้
- พิจารณาจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีทักษะการสื่อสาร บุคลิกภาพดี และตอบคำถามของประชาชนได้ ไปประจำที่ทำการสำนักงานขนส่ง กทม. และขนส่งจังหวัด ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้คำแนะนำ ตอบข้อซักถามประชาชน เกี่ยวกับกระบวนการออกใบสั่ง การชำระค่าปรับ การโต้แย้งหรือปฏิเสธใบสั่ง และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น
- มอบหมายให้ข้าราชการตำรวจ 1 นาย ปฎิบัติหน้าที่ประจำตลอดช่วง 3 เดือน หรือจะจัดแต่อย่างน้อยจะต้องมีข้าราชการตำรวจประจำที่ทำการขนส่งจังหวัด ที่ทำการแห่งละ 1 นายต่อวัน ยกเว้นสำนักงานขนส่ง กทม. ให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำที่ทำการแห่งละ 2 นายต่อวัน และเฉพาะสำนักงานขนส่ง กทม. พื้นที่ 5 ให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำที่ทำการ 5 นายต่อวัน
3.การจัดอบรมให้ความรู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องมาตรการชะลอการออกป้ายภาษีสำหรับรถที่มีใบสั่งค้างชำระ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้คณะทำงานเทคโนโลยีบังคับใช้กฎหมาย ศจร.ตร. และ ผค.สยศ.ตร. ร่วมกันดำเนินการจัดอบรม
ทั้งนี้ ให้ให้ สยศ.ตร. และคณะทำงานเทคโนโลยีบังคับใช้กฎหมาย ศจร.ตร. ติดตามผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้ประสานการปฏิบัติและหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ทุกระยะจนเสร็จสิ้นระยะเวลาการดำเนินการ และรายงานผลการดำเนินการให้ ตร. ทราบ