ศาลอาญาเลื่อนพิพากษา 'ประสิทธิ์ เจียวก๊ก' กับพวก กรณีฉ้อโกงชาวบ้าน หลอกลงทุนเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท เป็น 3 ก.ค. เหตุเอกสารสำนวนจำนวนมาก ต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2566 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีฉ้อโกงประชาชนหมายเลขดำอ.1837/2564 ที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัท วีเลิฟยัวแบ็ก (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ 1 น.ส.อมราภรณ์ หรือ พันตรีหญิง พญ.อมราภรณ์ วิเศษสุข ที่ 2 บริษัท เหนือโลก จำกัด โดย นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กรรมการผู้จัดการ ในฐานะนิติบุค ที่ 3 นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก อดีตประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน นักธุรกิจพันล้าน ที่ 4 นายกิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์ ที่ 5 น.ส.ณัฐวรรณ อุตตมะปรากรม ที่ 6 บริษัท เอ็ม โกลด์ ฟิวเจอร์ จำกัด โดยนางสาวสิริมา เนาวรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ที่ 7 น.ส.สิริมา เนาวรัตน์ ที่ 8 และนายกิตติวัฒน์ อ่วมอารีย์ ที่ 9
ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-9 ตามลำดับในความผิดฐานผิด พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา3,4,5,9,11/,12,15 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3,14(1) ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83,91,341,343 และให้พวกจำเลยคืนหรือใช้เงินแก่ผู้เสียหายที่ยังไม่ได้รับคืน พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย.2563 ถึงวันที่ 19 เม.ย.2564 พวกจำเลยได้ร่วมกันและแยกกันกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันด้วยการหลอกลวงและแสดงข้อความอันเป็นเท็จโดยการโฆษณาชักชวนประชาชนมาร่วมลงทุนซื้อขาย ฝากขายสินค้าแบรนด์เนม เช่น หลุยส์ วิตตอง ชาแนล แอเมส กุชชี่ และสินค้าทำความสะอาดสินค้าแบรนด์ เนม เป็นต้น ในหลายรูปแบบคิดโดยจะให้ผลประโยชน์ตอบแทน ร้อยละ 40.15-51.1 ต่อปี ซึ่งเป็นผลประโยชน์ตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยตามที่สถาบันการเงินกฎหมายกำหนดที่ร้อยละ 3.25 ต่อปี จนมีประชาชน จำนวนมากหลงเชื่อร่วมลงทุนกับพวกจำเลยตามเว็บไซต์ต่างๆที่พวกจำเลยตั้งขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้วพวกจำเลยไม่มีเจตนานำเงินจากประชาชน และผู้เสียหายไปลงทุนในธุรกิจดังกล่าว เป็นเพียงอุบายเพื่อนำเงินลงทุนมาเพื่อเป็นประโยชน์แก่พวกจำเลยเท่านั้น สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาลกว่า 1,000 ล้านบาท ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามความผิดด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลา ศาลแจ้งให้คู่ความทราบว่า นัดฟังคำพิพากษาวันนี้ อัยการโจทก์ จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 5 จำเลยที่ 6 จำเลยที่ 8 จำเลยที่ 9 และในฐานะกรรมการจำเลยที่ 7 ผู้รับมอบฉันทะทนายจำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 4 ทนายจำเลยที่ 2 ทนายจำเลยที่ 7 ถึงที่ 9 และผู้รับมอบฉันทะทนายจำเลยที่ 6 มาศาล
ส่วนจำเลยที่ 4 ในฐานะกรรมการจำเลย ที่ 1 และที่ 3 ปรากฏตัวผ่านระบบการประชุม ทางจอภาพจากเรือนจำกลางบางขวาง
สำหรับคดีนี้เมื่อนำสำนวนไปปรึกษาอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ตรวจก่อนอ่าน แต่อธิบดีผู้พิพากษา ศาลอาญา และรองอธิบดีผู้พิพากษาฯเห็นว่าเอกสารในสำนวนคดีนี้มีจำนวนมาก ต้องใช้เวลาการตรวจสอบ ในระยะเวลาพอสมควร เพื่อความละเอียดรอบคอบในการเขียนคำพิพากษา จึงเห็นควรให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปก่อน โดยนัดฟังคำพิพากษานี้เป็นวันที่ 3 ก.ค.2566 เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประสิทธิ์ ซึ่งศาลอาญาพิพากษาสั่งจำคุกนายประสิทธิ์ กับพวกรวม 3 คน คนละ 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำกลางบางขวาง โดยวันนี้ศาลไม่ได้เบิกตัวนายประสิทธ์จากเรือนจำ แต่ใช้ระบบประชุมทางไกลวีดิโอคอนเฟอร์เร้นซ์ ไปยังเรือนจำแทน เพราะเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2565 นายประสิทธิ์ พยายามจะหลบหนีศาลจากห้องน้ำ ระหว่างมาฟังการพิจารณาคดีที่ศาลอาญา