สธ.เผยผู้ป่วยโควิดพุ่งหลังเทศกาลสงกรานต์ ย้ำให้กลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนประจำปี ก่อนระบาดหนักช่วงฤดูฝน ด้านกรมแพทย์แผนไทยฯย้ำฟ้าทะลายโจรใช้รักษาได้ มีผลวิจัยชัด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2566 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การระบาของโควิด-19 ว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นชัดเจนช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งผู้ป่วยรายใหม่และผู้ป่วยหนักโดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยว และจากการที่กองระบาดวิทยาได้ประเมินลักษณะทางระบาดวิทยาของโควิด 19 พบว่ามีความคล้ายคลึงกับไข้หวัดใหญ่ คือ มีการระบาดตามฤดูกาล จึงคาดประมาณได้ว่าอาจมีการระบาดของโควิด-19 สูงขึ้นในช่วงฤดูฝน
สธ.จึงขอให้ประชาชนเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ประจำปีก่อนเข้าฤดูฝนซึ่งจะเริ่มฉีดในปี 2566 เป็นปีแรก โดยฉีดปีละ 1 เข็ม สามารถใช้วัคซีนชนิดใดหรือรุ่นใดก็ได้โดยให้ห่างจากเข็มสุดท้ายหรือประวัติการติดเชื้ออย่างน้อย 3 เดือน และไม่ต้องนับว่าเป็นเข็มที่เท่าใด โดยกรมควบคุมโรคได้มีการจัดเตรียมวัคซีนให้กับทุกกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป และได้มีการจัดหาวัคซีนรุ่นใหม่สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่อายุ 12 ปีขึ้นไปด้วย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้ารับบริการฉีดโควิด- 19 ได้ที่หน่วยบริการตามที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำหนดไว้
สำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 ในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขใน กทม. ได้แก่ ศูนย์บางรัก โรงพยาบาลราชวิถี สถาบันโรคผิวหนัง สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โรงพยาบาลสงฆ์ และสถาบันบำราศนราดูร จังหวัดนนทบุรี
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับคำแนะนำการฉีดใหม่ให้เป็นการฉีดวัคซีนโควิดประจำปี เนื่องจากผลการสำรวจระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประชากรไทยทั้งจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค และการศึกษาจาก ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ พบว่าประชากรไทยส่วนใหญ่ได้มีภูมิคุ้มกันแล้ว จากการติดเชื้อหรือการรับวัคซีน
การปรับคำแนะนำจึงเน้นคำแนะนำการฉีดให้เป็นแบบที่เข้าใจง่าย คือ ให้ฉีดวัคซีนโควิดประจำปี โดยขอเน้นให้กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 608 พนักงานบริการหรือผู้ที่มีอาชีพต้องสัมผัสคนเป็นจำนวนมาก หรือผู้อยู่ในสถานที่แออัด เช่น ทัณฑสถาน รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านหน้า และเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี เข้ารับวัคซีนประจำปีโดยเร็วเพื่อลดอาการป่วยหนัก เสียชีวิต และรักษาระบบสาธารณสุขของประเทศ ก่อนการระบาดของโควิด 19 ตามฤดูกาล ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปก็สามารถรับวัคซีนโควิดประจำปีได้เช่นเดียวกันตามความสมัครใจ
กรมแพทย์แผนไทยฯ ยันใช้ยาฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยโควิดได้ มีผลศึกษาชัด
ทางด้าน นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า หลังจากเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 หลายหน่วยงานอาจมีการคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ดังนั้นทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งได้ศึกษาวิจัยแล้วว่า ฟ้าทะลายโจรนั้นสามารถใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัดได้ผลดี จึงมีการนำ ฟ้าทะลายโจรมาศึกษาวิจัยเพื่อใช้ในการรักษาโรคโควิด 19 พบว่าฟ้าทะลายโจรสามารถยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ไวรัสได้
ผลจากการใช้ สารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูงต่อผู้ป่วยระดับความรุนแรงน้อย พบอีกว่า ความรุนแรงของอาการไอ เจ็บคอ และปวดศีรษะลดลงปริมาณเสมหะ ความถี่ของการไอลดลง และ พบแนวโน้มของการลดปริมาณเชื้อไวรัส และต้านการอักเสบได้ดี ระยะต่อมาได้ทำการศึกษาประสิทธิผล/ความปลอดภัยสารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูง ต่อระยะเวลาการหายจากอาการ COVID-19 (RCT) ตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2563 พบว่าผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจร ลดโอกาสการเกิดปอดอักเสบได้ เนื่องจากฟ้าทะลายโจรอาจจะออกฤทธิ์ช้ากว่ายาแผนปัจจุบัน จึงมีการแนะนำว่าให้เริ่มใช้ทันทีในผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการ หรือมีอาการน้อย โดยหากกินไปแล้ว 2-3 วันอาการไม่ดีขึ้นให้รีบพบแพทย์ปัจจุบัน
สำหรับ ยาฟ้าทะลายโจร ที่จำหน่ายทั่วไป มี 2 แบบ ได้แก่ ผงบด และ แบบสารสกัด ซึ่งจะระบุไว้ ตามคำแนะนำของฉลากกำกับยา และ มีการระบุปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ไว้ด้วย ยาฟ้าทะลายโจรในการรับประทานเพื่อรักษาอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ที่เกิดจากอาการไข้หวัดธรรมดา ให้รับประทานทันทีเมื่อเริ่มมีอาการ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยให้รับประทานยาฟ้าทะลายโจรแบบบดผง ครั้งละ 4 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง (ครั้งละประมาณ 500 มิลลิกรัม – 2 กรัม) ก่อนอาหารและก่อนนอน (ประมาณ 6,000 มิลลิกรัมต่อวัน)
ส่วนแบบสารสกัด รับประทานครั้งละ 1 หรือ 2 แคปซูล เพื่อให้ได้รับสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์ประมาณ 20 มิลลิกรัม/ครั้ง วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร หรือกินตามคำแนะนำของฉลากกำกับยา ส่วน การใช้ยาฟ้าทะลายโจรเพื่อรักษาไข้ โควิด 19 นั้นต้องรักษาให้เร็วที่สุด และผู้ป่วยโควิด 19 มีความจำเป็นจะต้องได้รับ สารแอนโดรกราโฟไลด์ที่เพียงพอ คือ ขนาด 180 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้รับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 60 มิลลิกรัม ก่อนอาหาร ต่อเนื่อง 5 วัน จึงจะช่วยลดโอกาสการเกิดปอดบวมและความรุนแรงอื่นๆ ได้ และผู้ป่วยโควิด 19 จะต้องอยู่ภายใต้การติดตามดูแลของแพทย์ด้วย เพื่อความเหมาะสมและความปลอดภัยในการใช้ยาฟ้าทะลายโจร อย่างมีประสิทธิภาพ
ฟ้าทะลายโจร เป็นยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ของกระทรวงสาธารณสุข จึงเชื่อมั่นได้ในความปลอดภัย ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ในการรักษาอาการไข้หวัด เจ็บคอ และอาการท้องเสียชนิดไม่ติดเชื้อ ได้ แต่มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร หญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร และควรระวังการใช้ยานี้ร่วมกับยาวาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล และ ยาลดความดันโลหิต และควรระวังการใช้ในผู้ป่วยโรคตับ ไต การใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการชาปลายมือ ปลายเท้า หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้
ดังนั้น ต้องใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ ใช้ตามฉลากกำกับยาอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยจาก ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาโรค รวมถึงการระมัดระวังการใช้ยาสมุนไพรมากเกินไป หรือ การทานร่วมกับอาหารเสริม หรือ ยาอื่นๆ ซึ่งจะเป็นการทำให้ตับทำงานหนักเกินไป
นพ.เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้กล่าวเพิ่มเติมกรณีการใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยโควิด 19 โดยในปีที่ผ่านมา กรมฯ ได้นำแพทย์แผนไทยในส่วนกลางร่วมกับแพทย์แผนไทยส่วนภูมิภาคลงพื้นที่เพื่อดูแล รักษาผู้ป่วยโควิด 19 และ Long Covid 19 ทั่วประเทศ ส่วนกลาง พบผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วยยาสมุนไพรกว่า 4,000 ราย เป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 2,428 ราย ผู้ป่วยระยะติดเชื้อ 310 ราย และผู้ป่วย Long COVID-19 1,332 ราย และในส่วนภูมิภาคดูแลประชาชนและผู้ป่วยกว่า 6,000 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยง 2,541 ราย ผู้ป่วยระยะติดเชื้อ 1,183 ราย และ ผู้ป่วย Long COVID-19 2,383 ราย
ในปี 2566 กรมฯ ยังคงมีความห่วงใยประชาชน จึงส่งแพทย์แผนไทยในส่วนกลาง เข้าไปร่วมกับแพทย์แผนไทย และสหวิชาชีพในส่วนภูมิภาค เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 และ ผู้ป่วย Long COVID 19 ทั่วประเทศ โดยเริ่มลงพื้นที่ จ.แพร่ และมีแผนลงพื้นที่ดูแลประชาชน ที่ จ.อุบลราชธานี อุทัยธานี ตราด นราธิวาส อย่างต่อเนื่อง ด้านการใช้เทคโนโลยีทางการสื่อสารเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร จึงจัดทำช่องทาง ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับยาฟ้าทะลายโจรรวมถึงการใช้ยาสมุนไพร แนะนำอาหารเป็นยา และการดูแลรักษาอาการ โควิด 19 เบื้องต้น โดยแพทย์แผนไทย ผ่าน Line Official Account (Line OA) @morthai-covid หมอแผนไทยสู้ภัยโควิด , @fahdtam “FahFirstAid” และ Line @DTAM