ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สมศักดิ์ คิมเนียง' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแคนดง บุรีรัมย์ ทุจริตขายซากวัสดุ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 3 พิพากษาลงโทษ 6 เดือน พวก 1 ราย แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วน 'เจ้าตัว' พร้อมพวกอีกราย ประสงค์สู้คดีแต่ไม่มีทนายความ ศาลให้แยกฟ้องเป็นคดีใหม่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายสมศักดิ์ คิมเนียง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลแคนดง อำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ กับพวก คือ นายสมรักษ์ ศาลางาม และนางบัวลี หลักหนองบัว ทุจริตในการจำหน่ายซากวัสดุที่ไม่สามารถใช้การได้และไม่นำเงินที่ได้จากการขายวัสดุ ส่งสำนักงานเทศบาลตำบลแคนดง
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 , 157 พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2542 แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาดังนี้
1.นายสมรักษ์ ศาลางาม จำเลยที่ 2 มีความผิดตามกฎหมาย ลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท
ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน และปรับ 10,000 บาท
รู้สำนึกโดยให้การรับสารภาพ อีกทั้งเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบรายงานสืบเสาะและพินิจ จำเลยที่ 2 ไม่ปรากฏว่าเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ไม่เคยมีประวัติการกระทำความผิดในหน้าที่ราชการ ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และให้คุมความประพฤติไว้มีกำหนด 1 ปี
2. นายสมศักดิ์ คิมเนียง จำเลยที่ 1 และ นางบัวลี หลักหนองบัว จำเลยที่ 3 ประสงค์จะต่อสู้คดี แต่ยังไม่มีทนายความ ศาลมีคำสั่งให้โจทก์แยกฟ้องเป็นคดีใหม่
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 เห็นชอบไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ