ผู้ว่าฯ อุบลฯ ลงนามคำสั่งให้ 'ณฐพล บุญชู' นายกเทศมนตรีตำบลคำน้ำแซบ พ้นตำแหน่งเป็นทางการแล้ว หลังโดน ป.ป.ช.- ตร.-ป.ป.ท. ภ.3 บุกจับสดคาห้องทำงาน คดีเรียกรับเงิน 15,000 บาท แลกจ่ายค่าเซ็นเช็คติดตั้งกล้องวงจรปิด - ชี้มีคลิปบันทึกเสียงสนทนาต่อรองมัด เจ้าตัวมีสิทธิ์โต้แย้งคำสั่งภายใน 90 วัน
จากกรณีปรากฏข่าวเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วารินชำราบ ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช. อุบลราชธานี สำนักงาน ป.ป.ท. ภ.3 อุบลราชธานี ร่วมกันจับกุมตัว นายณฐพล บุญชู นายกเทศมนตรีตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ตามข้อกล่าวหาเป็นเจ้าพนักงาน เรีย รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่านายณฐพล บุญชู ไม่ยอมลงนามในเช็คสั่งจ่ายค่าติดตั้งกล้องวงจรปิด และได้เรียกรับเงินค่าเซ็นเช็ค 17,000 บาท จึงนำเรื่องมาแจ้งความร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. เข้าจับกุม โดยมีการวางแผนจับกุม ที่ สภ.วารินชำราบ และได้บันทึกเสียงสนทนาต่อรองเหลือ 15,000 บาท เมื่อถึงเวลานัดหมายผู้เสียหายได้นำเงินไปมอบให้ที่ห้องทำงานนายณฐพลฯ
จากนั้น ผู้เสียหายได้ถอนหน้ากากอนามัยอันแสดงว่าได้มีการรับเงินแล้ว จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม พบนายณฐพลฯ กำลังนับเงินของกลางที่ได้ลงประจำวันไว้ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิผู้ต้องหา จากการตรวจค้นตัว พบซองใส่เงินที่ระบุผู้ค้าอีก 2 ห้าง และใบเขียนโน็ตการขอเงินจากผู้ค้าอีก 1 ฉบับ จึงนำตัวพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุด แหล่งข่าวจากจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้ลงนามในคำสั่งอุบลราชธานี ที่ 13322/2566 ให้ นายณฐพล บุญชู พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นทางการแล้ว หลังได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เกี่ยวข้อง และมีคลิปเสียงสนทนาเกี่ยวกับการเรียกรับเงินปรากฏเป็นหลักฐาน
คำสั่งจังหวัดอุบลราชธานี ดังกล่าวระบุว่า ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. เขตพื้นที่ 3 เข้าทำการจับกุม นายณฐพล บุญชู นายกเทศมนตรีตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเวันการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยกรณีเรียกรับเงินโครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดระบบ CCTV เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ที่สำนักงานตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ ซึ่งอำเภอวารินชำราบได้รายงานให้จังหวัดอุบลราชธานีทราบ และจังหวัดได้แจ้งให้นายอำเภอวารินชำราบผู้ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบสราชธานี ตามสั่งจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 36223/6566 ลงวันที่ 3 กันยายน 2562 ในการกำกับดูแลเทศบาลตำบล ตามมาตรา 71 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562 ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิด ตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกันนั้น
ต่อมา สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุบสราชธานี แจ้งต่อจังหวัดอุบสราชธานี ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติในการประชุมครั้งที่ 112/2565 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ส่งเรื่องให้ผู้กำกับดูแลดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายณฐพล บุญชู กรณีเรียกรับเงินซึ่งปรากฎข้อเท็จจริงจากบันทึกการจับกุม ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ความว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า นายณฐพล บุญชู ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลคำน้ำแซบ มีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากการดำเนินโครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดระบบ CCTV ของโรงเรียนเทศบาลคำนางรวย อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นโครงการของเทศบาลตำบลคำน้ำแซบ เป็นเงินจำนวน 17,000 บาท
ในวันที่ทำสัญญาจ้างตังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ประสานสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุบลราซธานี และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต 3 (ส่วนหน้า) เพื่อวางแผนจับกุมและได้ดำเนินการจับกุม ณ บริเวณห้องทำงานของนายกเทศมนตรีตำบลคำน้ำแซบ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565
ขณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมแสดงตัวจะเข้าจับกุมนายณฐพล บุญชู ได้เดินเข้าห้องทำงาน และโยนซองจดหมายสีขาว ซึ่งบรรจุธนบัตรที่เรียกรับโยนลงบริเวณเก้าอี้ภายในห้องของนายณฐพล บุญชู เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการตรวจสอบธนบัตรดังกล่าวต่อหน้านายณฐพล บุญชู
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับสำเนาธนบัตรที่ลงประจำวันไว้พบว่ามีหมายเลขตรงกัน จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
จากนั้นได้ตรวจค้นตัวนายณฐพล บุญชู โดยความยินยอมของนายณฐพล บุญชู ผลการตรวจค้นได้พบของกลางซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงต้านหน้าข้างซ้าย และที่โต๊ะทำงานภายในห้องทำงานของนายณฐพล บุญชู
จึงไม่มีเหตุผลอื่นใดจะเป็นการกลั่นแกล้งผู้ถูกกล่าวหาแต่ประการใด
แม้ต่อมาอำเภอวารินชำราบ จะรายงานผลการสอบสวนว่าไม่มีหลักฐานใดที่รับฟังได้ว่านายณฐพล บุญชู นายกเทศมนตรีตำบลคำน้ำแซบ มีพฤติการณ์ที่ขัดต่อ มาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562
แต่จังหวัดอุบลราชธานีได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เกี่ยวข้องอีกทั้งปรากฏคลิปภาพการจับกุมและคลิปเสียงการสนทนาเกี่ยวกับการเรียกรับเงิน รวมทั้งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบแจ้งผลการสอบสวนให้จังหวัดทราบว่า ได้มีการสรุปสำนวนการสอบสวนเห็นควรสั่งฟ้องไปยังสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 3 จังหวัดสุรินทร์ แล้ว
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พิจารณาแล้วเห็นว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุบลราชธานี และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต 3 (ส่วนหน้า) ร่วมกันจับกุมและพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวนและเห็นควรสั่งฟ้องแล้ว ประกอบกับได้ตรวจสอบคลิปภาพพร้อมเสียงในการเข้าจับกุมและคลิปเสียงการสนทนากับผู้เสียหายที่ถูกเรียกรับเงิน รวมทั้งพยานผู้เกี่ยวข้องที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
การกระทำของนายณฐพล บุญชู ถือเป็นการปฏิบัติไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่และเป็นการประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2562
จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 73/1 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกันนี้ให้นายณฐพล บุญชู พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
การโต้แย้งคำสั่งนี้ให้ฟ้องต่อศาลปกครองอุบลราชธานี ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำสั่งตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2566 เป็นต้นไป (ดูคำสั่งประกอบ)