ตร.กลันตันเผยยอดขนยาเสพติดจากไทยเข้ามาเลย์ฯ ช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.พุ่งสูงขึ้นมากหลังเข้ายึดยาบ้าได้กว่า 2.7 ล้านบาท เล็งประสานความร่วมมือทางการไทยแก้ปัญหา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวในต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกลันตันได้ออกมาประกาศจุดยืนว่าจะทำลายห่วงโซ่การขนส่งยาเสพติดที่มีที่มาจากประเทศไทก่อนที่จะถูกขนส่งเข้ามาในประเทศเพื่อแจกจ่ายให้ชาวบ้านทั้งที่ในกลันตันและในรัฐอื่นๆ ตามการให้สัมภาษณ์ของนาย Datuk Muhamad Zaki Harun หัวหน้าตำรวจรัฐกลันตัน
“เราไม่ต้องการให้กลันตันเป็นเสมือนประตูที่สามารถเข้าโดยง่ายสำหรับกลุ่มอาชญากรที่ต้องการจะขนย้ายยาเสพติดเข้าสู่มาเลเซีย เราจะต้องทำลายห่วงโซ่ด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลายซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้วร่วมกันเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงของไทย” นาย Datuk Muhamad Zaki Harun กล่าว
หัวหน้าตำรวจมาเลเซียกล่าวอีกว่าเราเห็นว่าจำนวนการขนย้ายยาเสพติดเข้าประเทศตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค.นั้นพบว่าพุ่งสูงขึ้นดังนั้นเพื่อหยุดยั้งการแทรกซึมที่เพิ่มขึ้นมาเอยๆ เราจะต้องประสานความร่วมมือกับทางการไทยต่อไป
โดยที่ผ่านมามีรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าผลจากการปฏิบัติการต่อต้านยาเสพติดหรือ Ops Tapis พบว่าในระหว่างวันที่ 2-9 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดยาเสพติดได้คิดเป็นมูลค่ากว่า 355,430 ริงกิต (2,755,056 บาท) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจับกุมจำนวนกว่า 439 ครั้ง
ปฎิบัติการ Ops Tapis ดังกล่าวนี้ยังรวมไปถึงการบุกเข้าตรวจค้นในเมืองปาซีร์มัซ เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้ายึดยาบ้าในการตรวจค้นได้เป็นจำนวนกว่า 18,000 เม็ด มูลค่ากว่า 180,000 ริงกิต (1,398,102 บาท) หลังจากที่ได้มีการจับกุมชายชาวมาเลเซียอายุ 26 ปี และชายไทยอายุ 27 ปี
“เราได้สกัดจับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าวาริโอตามถนน Jalan Rantau Panjang และพบว่ามีถุงใส่ยาบ้าจำนวนสี่ห่อวางอยู่ที่หน้ารถ เรากำลังสืบสวนว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้เชื่อมโยงกับการจับกุมก่อนหน้านี้หรือไม่ และพวกเขามีประวัติอาชญากรรมมาก่อนหรือไม่” นาย Datuk Muhamad Zaki Harun กล่าว