เผยเหตุให้ออก-เรียกคืนเครื่องราชฯ ‘อัยการพิเศษฝ่ายคดีแพ่งพระโขนง’ ก.อ.ลงโทษวินัยร้ายแรงเพราะทำสำนวนขาดระยะเวลาอุทธรณ์-ฎีกา ถึง 37 สำนวน เสียหายแก่ราชการจนไม่สามารถแก้ไขได้
จากกรณีราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่ามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายชลัมพร เพ็ชรรัตน์ พ้นจากตำแหน่ง อัยการพิเศษฝ่ายคดีแพ่งพระโขนง 1 สำนักงานคดีแพ่งพระโขนง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เนื่องจากคณะกรรมการอัยการได้มีคำสั่งลงโทษให้ออกจากราชการ ตามมาตรา 55 (7) แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก มหาวชิรมงกุฎ ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรพรรดิมาลานั้น
แหล่งข่าวสำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.) เปิดเผยว่าสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า สาเหตุที่คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) มีมติลงโทษวินัยร้ายแรง นายชลัมพร เพ็ชรรัตน์ สืบเนื่องจากสำนักงานคดีศาลสูงภาค 6 สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ตรวจสอบพบข้อบกพร่องในการดำเนินคดีของนายชลัมพร เพ็ชรรัตน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการศาลสูงจังหวัดสุโขทัย
โดยปล่อยให้สำนวนคดีอาญาที่พนักงานอัยการได้ส่งฟ้องต่อศาลแล้วจำนวน 29 สำนวน ขาดระยะเวลาอุทธรณ์ - ฎีกา เป็นข้อบกพร่องที่เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ทางราชการและสำนักงานอัยการสูงสุดที่ไม่สามารถแก้ไขได้
นอกจากนั้นในระหว่างการสอบสวนยังได้ตรวจพบข้อบกพร่องเพิ่มได้ปล่อยให้สำนวนคดีอาญาอีกจำนวน 8 สำนวน ขาดระยะเวลาอุทธรณ์ – ฎีกาเช่นเดียวกัน รวมแล้วถึง 37 สำนวน
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน
- หลายคนเป็นว่าที่ อสส.! อัยการ ขอ ปชช.มั่นใจ 5 คณะทำงานสอบ 6 คดีใหญ่
- เปิดพฤติการณ์ทุจริต 'อดีตอัยการ' เรียกจ่ายค่าอาหารเลี้ยงลูกน้อง-รีด 3 แสน แลกไม่ฟ้องคดี
- ปิดฉาก! อดีตอัยการฉาว คดีเรียกเงิน 9 ล.ผู้ต้องหา โดนคุก 10 ปี หลักฐานมัด 'เสียงแอบอัด'