IQAir เผยรายงานค่าอากาศโลกปี 2565 พบมีแค่ 13 ประเทศเท่านั้นมีค่าอากาศดีต่อสุขภาพตามหลัก WHO ขณะไทยติดอันดับ 57 มลพิษเยอะที่สุดในโลก ค่าเฉลี่ยทั้งประเทศ 18.1 ไมโครกรัม 'ถลาง' มลพิษน้อยสุด 8.7 ไมโครกรัม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวอ้างอิงจากสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐอเมริกาว่ารายงานเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศประจำปี 2565 ได้มีการเปิดเผยข้อมูลว่ามีแค่ 13 ประเทศเท่านั้นที่พบว่ามีอากาศที่ดีต่อสุขภาพ
โดยรายงานเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศดังกล่าวนั้นถูกจัดทำขึ้นโดย IQAir ซึ่งเป็นบริษัทของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ทำหน้าที่ในการติดตามคุณภาพอากาศทั่วโลก โดยพบว่าในรอบปีที่ผ่านมานั้น 90 เปอร์เซ็นต์ของประเทศทั่วโลกมีคุณภาพอากาศที่แย่เกินกว่าแนวทางขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO ที่ได้กำหนดไว้เพื่อให้รัฐบาลสร้างระเบียบเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน
IQAir ได้มีการวิเคราะห์คุณภาพอากาศเฉลี่ยจาก 131 ประเทศและพบว่ามีเพียงหกประเทศได้แก่ ออสเตรเลีย,เอสโตเนีย,ฟินแลนด์,เกรเนดา,ไอซ์แลนด์,และนิวซีแลนด์และเจ็ดดินแดนในแปซิฟิกและแคริบเบียนรวมถึงกวมและเปอร์โตริโกเท่านั้นที่เป็นไปตามแนวทางของ WHO ซึ่งได้เรียกร้องให้มีระดับมลพิษทางอากาศเฉลี่ย 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรหรือน้อยกว่า
ขณะที่ประเทศอย่างเช่นชาด, อิรัก, ปากีสถาน, บาห์เรน, บังคลาเทศ, บูร์กินาฟาโซ, คูเวตและอินเดีย พบว่ามีคุณภาพอากาศที่ไม่ดีซึ่งเกินแนวทางของ WHO ที่กำหนดมลพิษทางอากาศเฉลี่ยมากกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนประเทศไทยนั้นพบว่ามีค่าอันดับอยู่ที่ 57 โดยพบว่ามีค่ามลพิษทางอากาศเฉลี่ยอยูที่ 18.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยเมืองที่มีค่ามลพิษสูงมากกว่าค่ากำหนด 5-7 เท่ามีอาทิ ต.คลองตาคต จ.ราชบุรี มีค่ามลพิษที่ 29 ไมโครกรัม ต.ปาย จ.แม่ฮ่องสอนมีค่ามลพิษ 27.1 ไมโครกรัม เทศบาลเมืองน่านมีค่ามลพิษ 30.4 ไมโครกรัม เทศบาลเมืองขอนแก่นมีค่ามลพิษ 25.1 ไมโครกรัม เทศบาลปากน้ำ จ.สมุทรปราการมีค่ามลพิษ 30.4 ไมโครกรัม ขณะที่ค่าเฉลี่ยมลพิษในพื้นที่กรุงเทพในปี 2565 พบว่าอยู่ที่ 25-30 ไมโครกรัม
ขณะที่พื้นที่ที่มีค่ามลพิษต่ำสุดมีอาทิ ต.บ้านกลาง จ.ปทุมธานี มีค่ามลพิษ 9.8 ไมโครกรัม ต.เกาะหมาก จ.ตราดมีค่ามลพิษ 9.0 ไมโครกรัม ต.ถลาง จ.ภูเก็ต มีค่ามลพิษ 8.7 ไมโครกรัม ต.กะทู้ จ.ภูเก็ต มีค่ามลพิษ 8.8 ไมโครกรัม