‘ศาลปกครองกลาง’ ยกฟ้องคดีชาวบ้าน ต.หนองไข่น้ำ ยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนข้อบัญญัติ ‘อบต.’ ที่เปิดทางให้มีการอนุญาตก่อสร้าง โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน’ ในพื้นที่ชุมชนได้ ศาลฯชี้เป็นการออกข้อบัญญัติโดยชอบด้วยกฎหมาย
.........................................
เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ศาลปกครองกลางพิพากษายกฟ้อง ในคดีที่ น.ส.ธนพร วิจันทร์ ที่ 1 กับพวกรวม 52 คน ประชาชนใน ต.หนองไข่น้ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี (ผู้ฟ้องคดี) ยื่นฟ้ององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองไข่น้ำ ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) โดยขอให้ศาลฯ มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนข้อบัญญัติองค์กรปกครองส่วนตำบลหนองไข่น้ำ เรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไข่ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 ซึ่งเป็นการอนุญาตให้การก่อสร้างอาคารโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนในพื้นที่ชุมชนได้
ทั้งนี้ เนื่องจากศาลฯพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การออกข้อบัญญัติองค์กรปกครองส่วนตำบลหนองไข่น้ำ เรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไข่ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 ของอบต.หนองไข่น้ำ ซึ่งเป็นการอนุญาตให้มีการก่อสร้างอาคารโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนในพื้นที่ชุมชน นั้น ไม่ได้ขัดต่อหลักวิธีการบริการกิจการบ้านเมืองที่ดี และเป็นการออกข้อบัญญัติฯโดยชอบด้วยกฎหมาย
“...จะเห็นได้ว่า การออกข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไข่น้ำ เรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้างฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 ให้ประเภทหรือชนิดของโรงงานลำดับที่ 88 (2) โรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน ก่อสร้างในพื้นที่บริเวณที่ 1 ได้ เป็นการกำหนดที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ ที่มุ่งจัดหาพลังงานและแก้ไขปัญหาขยะล้นเมืองเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
แม้จะเป็นการออกข้อบัญญัติเพื่อควบคุมการก่อสร้างอาคารในช่วงที่กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมหมดอายุ แต่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ยังคงมีดุลพินิจที่จะกำหนดว่า อาคารชนิดหรือประเภทใดที่ควรให้ก่อสร้างในบริเวณใดได้ตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น การออกข้อบัญญัติของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ดังกล่าว จึงยังไม่อาจถือได้ว่าไม่สอดคล้องกับเหตุผล ข้ออ้างของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าสิบสองในประเด็นนี้จึงไม่อาจรับฟังได้
ส่วนกรณีที่ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าสิบสองอ้างว่า กรณีเป็นการออกข้อบัญญัติ เพื่อรองรับโครงการกำจัดขยะมูลฝอย โครงการแปรสภาพเป็นเชื้อเพลิง (RDF) และผลิตพลังงานไฟฟ้าที่มีการรับรองให้ความเห็นชอบในระเบียบวาระที่ 4 ในการประชุมสมัยวิสามัญนั้น
เมื่อศาลได้วินิจฉัยแล้วว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ออกข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไข่น้ำ เรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้างฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 โดยกำหนดให้ประเภทหรือชนิดของโรงงานลำดับที่ 88(2) โรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน ก่อสร้างในพื้นที่บริเวณที่ 1 ได้นั้น เป็นไปเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐที่มุ่งจัดหาพลังงานและแก้ไขปัญหาขยะลันเมือง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ อันเป็นประโยชน์สาธารณะ
ส่วนการที่มีมติรับรองให้ความเห็นชอบในระเบียบวาระที่ 4 ในการประชุมสมัยวิสามัญกรณีดำเนินการตามโครงการกำจัดขยะมูลฝอย โครงการแปรสภาพเป็นเชื้อเพลิง (RDF) และผลิตพลังงานไฟฟ้านั้น แม้จะได้ดำเนินการไปในคราวเดียวกันกับการพิจารณาออกข้อบัญญัติดังกล่าว กรณีก็ยังไม่อาจรับฟังได้ว่า เป็นการใช้อำนาจออกข้อบัญญัติเพื่อเป็นการรองรับโครงการกำจัดขยะมูลฝอยโครงการแปรสภาพเป็นเชื้อเพลิง (RDF) และผลิตพลังงานไฟฟ้าดังที่ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าสิบสองกล่าวอ้าง
นอกจากนี้ ในการดำเนินโครงการโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนนั้น ผู้ที่ประสงค์จะก่อสร้างจะต้องดำเนินการขออนุญาตตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงงานกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการพลังงาน และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีการกำหนดให้ผู้ที่ประสงค์จะขออนุญาตประกอบกิจการโรงงานดังกล่าวต้องจัดทำรายงานที่เกี่ยวกับการศึกษาและมาตรการป้องกันแก้ไขผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย รวมทั้งต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ข้อกล่าวอ้างของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าสิบสองจึงไม่อาจรับฟังได้
ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมาข้างต้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (อบต.หนองไข่น้ำ) โดยความเห็นชอบของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 (สภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไข่น้ำ) และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 (นายอำเภอหนองแค) ออกข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไข่น้ำเรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไขน้ำ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 จึงเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว” คำพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ ส.5/2564 คดีหมายเลขแดงที่ ส.8/2566 ลงวันที่ 8 มี.ค.2566 ระบุ
สำหรับคดีนี้ผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่า อบต.หนองไข่น้ำ ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ออกข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไข่น้ำ เรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในพื้นที่บางส่วนในท้องที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 ที่แก้ไขให้สามารถอนุญาตการก่อสร้างอาคารโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนในพื้นที่ได้ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้ดำเนินการให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล