เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'ศรีทน พอสุยะ' อดีตนายก อบต.หนองปลาสะวาย ลำพูน จ้างเหมาปรับภูมิทัศน์ตามเส้นทางแม่น้ำปิง 5 จุดเท็จ ปลอมเอกสารเบิกจ่าย ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 5 พิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน แต่ได้รอลงอาญา - ป.ป.ช. ค้าน อสส.ไม่อุทธรณ์สู้ต่อ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายศรีทน พอสุยะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองปลาสะวาย อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน กับพวก คือ จ่าสิบเอกสมศักดิ์ สมพงษ์ ดำเนินการตามโครงการจ้างเหมาปรับภูมิทัศน์ตามเส้นทางแม่น้ำปิง จำนวน 5 จุด ในพื้นที่หมู่ที่ 1-5 โดยไม่ได้ดำเนินการตามสัญญาจริง และปลอมเอกสารการเบิกจ่าย
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ. 151, 147 ,157 และ 161 พ.ร.บ.ป.ป.ช.พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นายศรีทน พอสุยะ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามกฎหมาย ลงโทษจำคุก 5 ปี และปรับ 20,000 บาท รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงลงโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน และปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี
2. จ่าสิบเอกสมศักดิ์ สมพงษ์ จำเลยที่ 2 ลงโทษจำคุก 3 ปี และปรับ 8,000 บาท ลดโทษให้หนึ่งในสี่ คงจำคุก 2 ปี 3 เดือน และปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ลงมติไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ในส่วนที่รอการลงโทษ นายศรีทน พอสุยะ จำเลยที่ 1
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวในหมวดเดียวกัน
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 