คดีบ่อนพนันออนไลน์ 'มาวินเบต' ยังไม่จบ! ล่าสุด ทีมตร.สอบสวน ทำหนังสือร้องเรียน ก.อ. ขอให้มีการตรวจสอบพฤติการณ์อัยการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหาคดีนี้หรือไม่ หลังปรากฏข่าว พนง.อัยการ สอจ.ชลบุรี เคยสั่งฟ้องคดีไปแล้ว แต่ถูกดึงสำนวนให้รื้อทำใหม่ แก้เป็นกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร ชี้จับมาหลายคดีไม่เคยเจอแบบนี้ อ้างมีกรณีทำพยานหลักฐานเท็จด้วย
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข่าวกรณีคดีกลุ่มเครือข่ายบ่อนพนันออนไลน์รายใหญ่ชื่อ “มาวินเบต คอทคอม” ซึ่งมีการเปิดให้เล่นพนันในหลายรูปแบบ เช่น หวยยี่กี หวยออนไลน์ แทงบอลออนไลน์ และกาสิโนออนไลน์ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่าหลักหมื่นล้านบาท แบ่งหน้าที่ทำงานนำเงินที่ได้มาฟอกเงินโดยลงทุนในธุรกิจสปอร์ตคลับ, ธุรกิจร้านกาแฟ รวมถึงซื้อรถยนต์หรู และทรัพย์สินต่างๆ ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม ที่เคยปรากฏเป็นข่าวใหญ่โต ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2563 ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ปิดล้อมตรวจค้นภายใต้ปฏิบัติการ “วาฬเกยตื้น” และจับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวนหนึ่ง พร้อมยึดของกลางเงินสด 50 ล้านบาท รถยนต์หรู 8 คัน อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนอีก 5 กระบอก ได้หลุดพ้นข้อกล่าวหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน (จับยี่กี หรือหวยยี่กี) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นฝ่ายเจ้ามือรับกินรับใช้ และร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน” ไปแล้ว ภายหลังจากอัยการสูงสุด (อสส.) มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดี เนื่องจากเห็นว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอฟ้องคดี
ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่า ก่อนหน้าที่ อัยการสูงสุด (อสส) หรือ นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน ที่ดำรงอสส.ในขณะนั้น จะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ พนักงานอัยการสำนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี เคยมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีนี้ จำนวน 4 รายไปแล้ว แต่ผู้บริหารระดับสูงสำนักงานอัยการได้สั่งให้ดึงสำนวนรื้อขึ้นมาทำใหม่ หลังผู้ต้องหาทำเรื่องร้องเรียน จึงสั่งสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนจะมีการสรุปสำนวนสอบสวนใหม่ เป็นการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร อ้างอิงหลักฐานเซิร์ฟเวอร์เว็บไซต์จดทะเบียนอยู่ในต่างประเทศ
- ปฏิบัติการ 'วาฬเกยตื้น'ส่อเหลว! อสส.สั่งไม่ฟ้อง4 ผู้ต้องหาคดีบ่อนพนันออนไลน์ 'มาวินเบต' (1)
- แฉคดีบ่อนพนันออนไลน์ 'มาวินเบต' อัยการ จ.เคยสั่งฟ้องแล้ว แต่ถูกดึงสำนวนให้รื้อทำใหม่ (2)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ว่า ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทีมสืบสวนคดีนี้ ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เพื่อร้องเรียนขอให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมข้าราชการอัยการว่ามีการใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่ให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้หรือไม่
แหล่งข่าวระบุว่า ในหนังสือร้องเรียนฉบับนี้ ลงนามโดยนายตำรวจยศ พ.ต.ต. เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทีมสืบสวนคดีนี้ ระบุว่า ได้ทำการสืบสวนติดตามคดีนี้มานานจนแน่ใจว่าผู้ต้องหากระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริง
โดยมีการสืบสวนจากสายลับที่เคยทำงานกับกลุ่มของผู้ต้องหา และมีการสอบปากคำผู้ต้องหาบางรายก่อนที่จะตกอยู่ในฐานะเป็นผู้ถูกจับกุมเพื่อขยายผลจับกุมเครือข่ายการพนันออนไลน์ มีการบันทึกคลิปวิดีโอเป็นหลักฐานยืนยันว่ากลุ่มผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับการจัดให้มีการเล่นพนักออนไลน์จริง และมีข้อมูลเส้นทางการเงินยืนยัน ซึ่งในระหว่างทำคดีมีความพยายามจากคนบางกลุ่มเข้ามาวิ่งเต้นเพื่อล้มคดี แต่กลุ่มของตนก็ปฏิเสธไม่รับการวิ่งเต้น
ต่อมาเมื่อคดีอยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายอัยการแล้ว ได้พยายามติดตามความคืบหน้ามาตลอด ซึ่งในระหว่างนั้น มีการสอบสวนพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาไปเปิดเว็บพนันใหม่ จากชื่อ "เดอะวันลอตโต้" ซึ่งเป็นคดีที่ชลบุรีที่จับกุมไปแล้ว มาเป็น "มาวินเบท" และติดตามจับกุมตัวได้ ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาโดนจับกุมตัวอีกเป็นคดีอีกครั้ง เป็นคดีที่กรุงเทพฯ ในฐานความผิดเดียวกับที่ชลบุรี
เบื้องต้น ได้มีการแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมแก่อัยการที่ชลบุรีด้วย และทราบว่า อัยการที่ชลบุรีได้สั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาแล้ว เหลือแค่ให้พนักงานสอบสวนส่งตัวกลุ่มผู้ต้องหามาฟ้องเท่านั้น
ก่อนที่ในเวลาต่อมา จะมาทราบเรื่องในภายหลังว่า คดีส่วนที่ชลบุรี ถูกสั่งรื้อสำนวนใหม่ให้เป็นคดีความผิดนอกราชอาญาจักร ทั้งที่ข้อเท็จจริงคดีในส่วนชลบุรี และที่กรุงเทพเป็นอย่างเดียวกัน ไม่มีอะไรแตกต่างกัน
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า หนังสือร้องเรียนยังกล่าวอ้างด้วยว่า ที่ผ่านมาได้พยายามทำหนังสือทวงถามอธิบดีอัยการภาค 2 และอัยการสูงสุดมาโดยตลอด แต่ไม่ได้รับการตอบรับ ทั้งที่กลุ่มตนเป็นเจ้าพนักงานและได้ดำเนินการจับกุมสืบพยานจนศาลลงโทษกลุ่มการพนันออนไลน์มาแล้วหลายคดี แต่ไม่มีคดีไหนที่มีการสั่งคดีในลักษณะเป็นคดีนอกราชอาณาจักรแบบนี้
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า ในหนังสือร้องเรียน ยังมีการกล่าวอ้างถึงข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างหลักฐานเท็จของบุคคลกลุ่มหนึ่งเพื่อใช้เป็นหลักฐานเสนอให้อัยการสูงสุดมีคำวินิจฉัยสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ดังกล่าว โดยอัยการสูงสุด อธิบดีอัยการภาค 2 อาจจะไม่ทราบเรื่องด้วย รวมไปถึงปัญหาการวิ่งเต้นคดีในส่วนของสำนักงานอัยการ พร้อมเรียกร้องให้คณะกรรมการอัยการเข้ามาสอบสวนเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการทุกคนที่ทุ่มเทกำลังความสามารถเพื่อสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีไม่ต้องเสียเปล่า