พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เผยความคืบหน้าคดีอธิบดีกรมอุทยานฯ สอบพยานหลายปากแล้ว แต่กลุ่มที่ปรากฎชื่ออยู่บนซองเงินสด 14 ราย ยังไม่ยอมเข้าให้ปากคำ เชื่อยังไม่กล้า เตรียมออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ไม่มาตามไปถึงที่ทำงานแน่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2566 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนคดีนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถูกกล่าวหาเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการไม่โยกย้ายตำแหน่งจากผู้ใต้บังคับบัญชา ว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วบางส่วน มีพยานบางรายที่ตอบรับมาให้ปากคำเพิ่มเติม มีเพียงกลุ่มพยาน 14 ราย ตามที่มีชื่อปรากฎอยู่บนซองเงินสดเท่านั้น ที่ยังไม่ยอมเข้ามาให้ปากคำ
“ผมเชื่อว่าที่ยังไม่กล้าเข้ามา ก็อาจเป็นเพราะว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างหมิ่นเหม่ และชี้แจงได้ไม่ชัดเจนว่าเป็นเงินอะไร ก็จะออกหมายเรียกให้มาพบอีกเป็นครั้งที่สอง หากครั้งนี้ยังไม่มาเราก็จะตามไปถึงที่ทำงานแน่ๆ ไม่แน่ว่าครั้งนี้จะยังเป็นพยานอีกหรือไม่” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ถึงจะติดขัดเรื่องพยานบุคคลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่หนักใจอะไร เพราะตามหลักฐานที่พบในขณะจับกุม ก็สามารถไล่ตรวจสอบต่อไปได้ว่าใครเป็นเจ้าของเงิน และเป็นเงินค่าอะไร ซึ่งค่อนข้างน่าพอใจ ส่วนที่ต้องเรียกสอบพยานเพราะต้องการสอบปากคำให้ครบถ้วนเท่านั้น ส่วนที่ไม่เข้าตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหา คิดว่าไม่จำเป็นอะไร เพราะหลักฐานที่มีขณะนี้ก็ค่อนแน่นหนาอยู่แล้ว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อถึงเรื่องจะนัดหมายให้ นายรัชฎา ผู้ต้องหา มาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้นว่า เรื่องนี้ถ้าผู้ต้องหาพร้อมจะให้ปากคำเพิ่มเติมก็มาได้เลย แต่ถ้าไม่มาก็เป็นสิทธิ์ของตัวผู้ต้องหา
"ส่วนเรื่องตรวจสอบเส้นทางการเงิน หรืออายัดทรัพย์ของผู้ต้องหาก็อยู่ระหว่างดำเนินการ เพราะคดีนี้เป็นเรื่องใหญ่ต้องตอบสังคมให้ได้ทุกประเด็น" ผบก.ปปป.ระบุ